เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
รวบโจรแสบอ้างเป็นวิศวกร หลอกคุยแชทสาวทางโปรแกรม WeChat ก่อนลวงรูดทรัพย์กว่า 20 ราย สารภาพหาเงินไปใช้หนี้พนันบอล
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี แถลงผลการจับกุม นายศิวรุฒน์ ระดาวิริยะกุล อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ 95/2557 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2557 ฐานวิ่งราวทรัพย์
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2557 น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 28 ปี อาชีพครู กศน. ผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า เสียทรัพย์สินได้แก่ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น มือถือไอโฟน 1 เครื่อง บีบี 1 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และเงินสด 1 หมื่นบาท ให้กับ นายศิวรุฒน์ ระดาวิริยะกุล ที่โรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งในซอยสัมพันธมิตร ใจกลางเมืองอุดรธานี
ทั้งนี้ น.ส.แอน ให้การว่า รู้จักกับผู้ต้องหารายนี้ทางโปรแกรม WeChat ทักทายกันโดยมีเพียงภาพโปรไฟล์ของแต่ละฝ่าย เมื่อสนทนากันฝ่ายชายก็แนะนำตัวเองว่าเป็นวิศวกร ชื่อหนึ่ง ทำงานอยู่บริษัทชื่อดังในกรุงเทพฯ มาพบลูกค้าที่อุดรธานี และอยากมีเพื่อนคุย เมื่อตีสนิทแล้วเหยื่อสาวก็หลงเชื่อว่าเป็นวิศวกรจริง และมีฐานะดีมั่นคงจึงยอมไปเที่ยว ทานอาหารด้วยกัน และลงเอยที่โรงแรม เมื่อตนเผลอหลับ ผู้ต้องหาได้ฉกฉวยเอาทรัพย์สินหลบหนีไปแล้วก็จะทำลายซิมการ์ดมือถือที่ใช้แชทติดต่อกันทิ้ง เพื่อไม่ให้ติดต่อได้อีก
หลังจากตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดและเหยื่อหญิงสาวยืนยันตัวจึงได้ออกหมายจับตัวเอาไว้ และติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ขณะเตรียมหลอกเหยื่อรายหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ และเมื่อไปค้นห้องพักในซอยรัชดา 36 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบมือถือจำนวน 20 เครื่อง กระเป๋าเงินแบบผู้หญิง 15 ใบ บัตรประจำตัว บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 95 ใบ ซิมการ์ดมือถือ 10 อัน
จากการสอบสวน นายศิวรุฒน์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ทรัพย์สินได้มาจากหลอกต้มตุ๋นเหยื่อหญิงสาวประมาณกว่า 20 ราย และเผยตนเป็นเพียงพนักงานบริษัทแต่ถูกไล่ออก และติดหนี้การพนันฟุตบอลกว่าแสนบาท จึงหันมาต้มตุ๋นเหยื่อหญิงสาว โดยอ้างว่าเป็นวิศวกร มีฐานะดี เหยื่อก็จะหลงกลไปหลับนอนด้วยแล้วขโมยเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ทั้งนี้ ตนยังมีรายชื่อหญิงสาวที่เตรียมเอาไว้ประมาณกว่า 100 ราย และยังคงแชทพูดคุยกันอยู่ ส่วนใหญ่หญิงสาวจะมีอายุระหว่าง 20-35 ปี อาชีพข้าราชการ พยาบาล ครู สาวออฟฟิศ เจ้าของร้านอาหาร โดยหลายรายไม่กล้าแจ้งความเพราะอับอาย และกลัวครอบครัวรู้เรื่อง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
