เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ศาลอาญา มีคำสั่งยกเลิกหมายจับแกนนำ กปปส. และ คปท. รวมถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หลังรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 มีรายงานว่า ศาลอาญาได้มีการเพิกถอนหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส. รวมทั้งแกนนำทั้งสิ้นอีก 18 คน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1) และมาตรา 12 ซึ่งดีเอสไอเป็นผู้ฟ้อง เนื่องจากทางรัฐบาล ได้มีคำสั่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม และนายสาธิต วงศ์หนองเตย ได้ยื่นอุทธรณ์ให้มีคำสั่งเพิกถอนนั้น ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่งออกมา แต่เมื่อศาลอาญาได้ออกคำสั่งเพิกถอนหมายจับ กปปส. ทั้ง 18 คนแล้ว ก็จะมีการส่งคำสั่งนี้ให้ศาลอุทธรณ์ต่อไป
ส่วนรายชื่อของแกนนำ กปปส. ทั้ง 18 คน ที่ถูกเพิกถอนหมายจับ มีดังนี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสาธิต วงศ์หนองเตย นายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายอิสสระ สมชัย นายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ นายรัชต์ยุตม์ หรืออมร ศิรโยธินภักดี นายกิตติชัย ใสสะอาด นายสำราญ รอดเพชร นายพานสุวรรณ ณ แก้วด้านนายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทนาย กปปส. กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้เพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ศาลอาญาก็มีหนังสือให้เพิกถอนหมายจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีหนังสือแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ ส่วนที่ก่อนหน้านี้ได้มีทนายไปยื่นเพิกถอนหมายจับนั้น ศาลอาญาก็ต้องนำคำสั่งไปยื่นให้ศาลอุทธรณ์ต่อไป
ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทีมทนายความกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่ม กปปส. ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอให้เพิกถอนหมายจับแกนนำ กปปส. ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่งใด ๆ จนกระทั่งรัฐบาลเพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทีมทนายจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา โดยที่เจ้าหน้าที่ของศาลอาญา ได้มีคำสั่งยกเลิกหมายจับแกนนำ กปปส. แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ ยังเหลือข้อหาร่วมกันก่อกบฏ ในขณะที่แกนนำ คปท. ได้แก่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. และนายรัชต์ยุตม์ หรืออมร ศิรโยธินภักดี ยังเหลือหมายจับในข้อหามั่วสุมกันเกิน 10 คน และเข้าไปในอสังหาของผู้อื่นอันเป็นการรบกวนการครอบครอง มีความผิดฐานบุกรุก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
