เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
คสช. เชิญ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หารือสานต่อ รถไฟรางคู่ ยังไม่ชี้ชัดทำรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ สั่งเดินหน้าโครงการที่จำเป็นและไม่ขัดต่อประชาชน ด้านชัชชาติยังไม่ทราบเรื่อง แต่ยินดีช่วย
วันนี้ (2 มิถุนายน 2557) พ.อ.วินธัย สุวารี พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง พ.อ.วีระชน สุคนธปฏิภาค และ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกันแถลงข่าวถึงการประชุมหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยในวันนี้ ที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจ
โดย พ.อ.ณัฐวัฒน์ รองโฆษก คสช. กล่าวในส่วนของโรดแม็พงานด้านเศรษฐกิจ โดยได้มุ่งเป้าไปที่งบประมาณค้างปี 2557 ที่มีเงื่อนไขติดขัดในข้อกฎหมายของการเบิกจ่าย ซึ่งมีปริมาณมากพอสมควรและมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนทาง คสช. จะนำงบดังกล่าวมาดำเนินการในโครงการก่อนหน้านี้หรือจะชะลอไว้ก่อนหรือไม่นั้น คาดว่าอีก 2 สัปดาห์ ถึงจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน และเมื่อแก้ปัญหางบประมาณปี 2557 ได้แล้ว ก็จะเข้าสู่การพิจารณางบประมาณปี 2558 ในทันที โดยจะเน้นเหตุผลความจำเป็นตามลำดับ เพื่อเป็นส่วนในการผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า ทาง คสช. ให้ดำเนินการในแนวทางเดียวกันกับกรณีกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้พิจารณาโครงการว่าเริ่มโครงการไหนก่อนดีที่จำเป็นและประชาชนให้การยอมรับ รวมไปถึงต้องผ่านการตรวจสอบในเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมว่าไม่มีหน่วยงานไหนขัดข้อง พร้อมกับทำประชาพิจารณ์ได้เสร็จเรียบร้อย
สำหรับในส่วนของรถไฟฟ้าความเร็วสูงต้องไปดูข้อดีข้อเสียก่อนว่าทำแล้วคุ้มหรือไม่ การใช้แหล่งเงินทุนมาจากไหน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะต้องไม่กระทบวินัยการคลัง ก่อหนี้สาธารณะเพิ่มอีก คาดว่าอาจจะร่วมลงทุนกับเอกชน แต่คิดว่าไม่ทันนำเสนอให้ได้ทราบกันภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนโครงการที่จะสานต่อต่อไปอย่างแน่นอนก็คือรถไฟรางคู่ ตอนนี้รอให้ทางสำนักงบประมาณไปดูว่าควรเอาเงินส่วนไหนมาดำเนินการ รวมถึงให้ทางการรถไฟไปหาพื้นที่ว่าจะใช้จุดไหนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งทาง คสช. จะเรียก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม มาพูดคุยหารือในเรื่องดังกล่าว เพราะนายชัชชาติเป็นคนที่มีความรู้ เพื่อจะได้ศึกษาในด้านต่าง ๆ
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามนายชัชชาติ ก็ได้รับคำตอบว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อมา แต่ยินดีช่วยหากทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะเวลานี้ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
