เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด, เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
ตำรวจสืบสวน สน.บางชัน ระดมยิงรถนิสิตจุฬาฯ กลางซอยรามคำแหง 118 อ้างเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้ายยาเสพติด ล่าสุด พงศพัศ รุดขอโทษ พร้อมสั่งเปลี่ยนรถใหม่ให้นิสิตจุฬาฯ ขณะที่ตำรวจ 3 นายถูกย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว
วานนี้ (2 สิงหาคม 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน รับแจ้งเหตุยิงกัน ที่บริเวณซอยรามคำแหง 118 แยก 44 หมู่บ้านพฤกษาชาติ แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งซูซูกิ สวิฟ สีเทา หมายเลข 1 กฆ 1993 กรุงเทพ สภาพล้อด้านหน้าข้างขวายางแตก ล้อหลังทั้ง 2 ข้างยางแตกทั้ง 2 ข้าง ส่วนด้านหลังรถมีรอยถูกชนและกระจกแตก โดยมีนางสาวอภีษฎา สัจพันโรจน์ อายุ 21 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนอยู่ข้างรถด้วยอาการหวาดผวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ที่มีจุดยิงกันเกิดขึ้นนั้น พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนางสาวอภีษฎา เล่าว่า เมื่อประมาณ 11.00 น. ตนขับรถออกมาจากบ้านเพื่อไปพบเพื่อนที่จุฬาฯ กระทั่งถึงซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ได้มีรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ขับแซงขึ้นมา ตนคิดว่าเขาคงจะรีบจึงให้แซงไปก่อน แต่กระบะกลับไปแซง และชะลอความเร็ว ต่อมาก็มีชาย 4 คน เปิดประตูลงจากรถกระบะแล้วเดินมาเคาะกระจกรถตน โดยไม่บอกว่าเป็นใคร ตนก็ไม่กล้าเปิดประตู อีกทั้งยังพบว่า 1 ใน 4 คน มีอาวุธปืนด้วย ตนจึงปีนมาทางด้านเบาะหลังเพื่อโทรศัพท์หาแม่ ซึ่งระหว่างนั้นชายทั้ง 4 คน ก็เคาะกระจกรถอย่างต่อเนื่อง
นางสาวอภีษฎา กล่าวต่อว่า ตอนนั้นตนกลัวมาก จึงตัดสินใจปีนกลับมาที่เบาะคนขับ พร้อมกับขับรถถอยหลังเพื่อให้ชนรถคนอื่น หวังให้คนอื่นลงรถมาช่วย แต่ก็ไม่มีใครลงมา จึงขับรถถอยหลังไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางก็เฉี่ยวรถคันอื่นตลอด ส่วนชายทั้ง 4 คน ก็ขับรถตามมา พร้อมยิงใส่ล้อรถของคน จนกระทั่งมาถึงดังกล่าว รถของตนก็ไปต่อไม่ได้แล้วเพราะยางแตก ด้านชายทั้ง 4 คน ก็เดินลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกุญแจมือลงมาด้วย
นางสาวอภีษฎา กล่าวอีกว่า จังหวะนั้นเห็นชาวบ้านเริ่มมามุงดูกันเยอะ เลยตัดสินใจเปิดประตูลงมา ด้านชาย 4 คน ก็พยายามจับตนใส่กุญแจมือ แต่ตนไม่ยอมและดิ้นต่อสู้ กระทั่งแม่ของตนมา พวกเขาเลยโชว์บัตรว่าเป็นตำรวจ แล้วบอกว่าเห็นตนขับรถชนคนอื่นตลอดทาง จึงตามมา หลังจากนั้นเขาก็ได้ค้นรถตนแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนชาวบ้านที่มุงดูก็พยายามถ่ายรูปและคลิป แต่ชายทั้ง 4 คน บอกให้หยุดถ่ายและให้ลบคลิปให้หมด ก่อนที่ทั้งหมดจะขับรถหนีไป
นางสาวอภีษฎา เผยต่อว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมชายทั้ง 4 คน ถึงไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจตั้งแต่แรก แต่กลับเดินปรี่เข้ามาเคาะกระจกรถตนแบบนั้น ตนเป็นผู้หญิงก็รู้สึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับเราบ้าง ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และตนก็อาศัยอยู่ตรงนี้มากว่า 10 ปี รถตนก็ขับมา 2 ปีแล้ว จะบอกว่าเป็นรถต้องสงสัยคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องนี้ได้ปรึกษาญาติที่เป็นทนายความให้ช่วยดำเนินการแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รองผบก.น.4 กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว โดยทราบว่าเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.บางชัน ที่ได้ลงพื้นที่ตรวจรถต้องสงสัยเพื่อจับกุมยาเสพติด แต่เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิด คิดว่ารถดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัย จึงทำการจับกุมและตรวจสอบ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเรียกร้องเอาผิดหรือไม่ก็ค่อยว่ากันอีกที และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ว่าเจ้าหน้าที่กระทำการเกินกว่าเหตุหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
และในค่ำวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. เดินทางไปที่ สน.บางชัน เพื่อขอโทษผู้เสียหายและพร้อมที่จะรับผิดชอบเต็มที่ โดยกำชับผกก.สน.บางชัน สอบสวนตำรวจที่ก่อเหตุทั้งหมด และรายงานผลให้ทราบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ได้รับรายงานเพิ่มเติมภายหลังว่า ตำรวจที่ก่อเหตุทั้งหมด มีด้วยกัน 3 นาย ไม่ใช่ 4 นาย ตามที่เจ้าทุกข์เข้าใจ และให้หยุดปฏิบัติงานด้านสืบสวนยาเสพติดไว้ก่อน และย้ายให้ไปทำงานธุรการแทน ประกอบด้วย
1. ร.ต.ต.สุพจน์ โทเกษ รอง สว.สส.สน.บางชัน
2. ด.ต.รัศมี เทพทา ผบ.หมู่ งานสืบสวนสอบสวน สน.บางชัน
3. ด.ต.จำเนียร ขันแดง ผบ.หมู่ งานสืบสวนสอบสวน สน.บางชัน
ทางด้านผู้ปกครองของ นางสาวอภีษฎา ระบุว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ต้องการอะไรจากเจ้าหน้าที่ เพียงแต่อยากให้เจ้าหน้าที่อย่ากระทำการแบบนี้กับใครอีก ขณะที่ตำรวจ คู่กรณีทั้ง 3 นาย ได้ออกมายอมรับว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น จากการสืบสวนหาข่าว และยินดีรับโทษ พร้อมขอโทษผู้เสียหาย
วันนี้ (3 สิงหาคม 2557) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจสืบสวน สน.บางชัน ระดมยิงรถนิสิตจุฬาฯ กลางซอยรามคำแหง 118 เพราะเข้าใจผิดว่า เป็นรถของคนร้ายในคดียาเสพติด ว่า ขอยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นข้อบกพร่องของตำรวจ และตนได้กำชับให้ตำรวจทุกคนเพิ่มความระมัดระวังการทำหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายซ้ำขึ้นอีก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายนั้น ได้มีการตั้งกรรมการสอบทางวินัย และคดีอาญากับตำรวจทั้ง 3 นายแล้ว
ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งเยียวยาครอบครัวของนิสิตจุฬาฯ ซึ่งผู้เสียหาย ด้วยการเปลี่ยนรถคันใหม่ให้แทนรถคันเดิมที่ถูกตำรวจยิงเสียหาย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก