รับน้องโหดหัวหิน ตำรวจจ่อแจ้งข้อหารุ่นพี่ รอผลนิติเวช

ตร.จ่อแจ้งข้อหารุ่นพี่ปทุมรับน้องทำร้ายร่างกายจนตาย (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
 
          ข่าวรับน้องโหดหัวหิน ล่าสุด ตำรวจรอผลนิติเวชเหยื่อช่างกลรับน้องตาย คาด 1 สัปดาห์รู้ผลการเสียชีวิต จ่อแจ้งข้อหารุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย ด้านเลขาฯ อาชีวะ ส่งรายชื่อรุ่นพี่ให้ตำรวจหมดแล้ว

          วันที่ 1 กันยายน 2557 พ.ต.อ. ดำรงค์ศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบ.ก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ รรท.ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยถึงข่าวรับน้องโหด กรณีนายโภไคย แสงโรจน์รัตน์ หรือ น้องกัน อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้น ปวช. ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เสียชีวิต อย่างมีเงื่อนงำจากการไปรับน้องของรุ่นพี่ ที่เขาเต่า อ.หัวหิน โดยระบุว่า ทางคดีตำรวจได้สอบปากคำรุ่นพี่และรุ่นน้องหมดแล้ว ซึ่งยังมีการให้การที่ขัดแย้งบ้างพอสมควร ดังนั้น จึงต้องรอผลทางนิติวิทยาศาตร์ของสถาบันนิติเวชก่อน คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์จะทราบผลถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทางตำรวจได้ประสานพูดคุยทางวาจากับนิติเวชตลอดเวลา

          ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุที่น่าเชื่อได้ว่ารุ่นพี่อาจจทำการรับน้องที่มีการทำร้ายร่างกายร่วมด้วย ดังนั้น ตำรวจจึงเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิตไว้แล้ว โดยญาติของผู้เสียชีวิตได้มาแจ้งความและให้ปากคำเอาไว่ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีขอรอผลนิติเวชวิทยาอีกครั้งหนึ่งก่อน

          ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานในเบื้องต้นจากทางวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ว่า นักศึกษาของทางวิทยาลัย จำนวน 48 คน แอบไปจัดกิจกรรมรับน้องที่ อ.หัวหิน โดยที่ผู้บริหารและครูไม่ทราบแล้ว สำหรับนักศึกษาที่เสียชีวิตได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชฯ ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอรายชื่อนักศึกษาทั้งหมดที่ไปร่วมกิจกรรมรับน้อง และทางวิทยาลัยได้จัดส่งรายชื่อนักศึกษาทั้ง 48 คน ไปให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน แล้ว

          โดยในวันนี้ (1 กันยายน) จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 400 กว่าแห่งทั่วประเทศ ในการเข้มงวดดูแลการออกไปจัดกิจกรรมการรับน้องนอกสถานที่ของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งปกติ สอศ.ได้ห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมการรับน้องนอกสถานที่อยู่แล้ว แต่จะมีมาตรการเพิ่มเติมว่า หากมีกรณีนักเรียน นักศึกษา จะไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ จะต้องขออนุญาตจากผู้บริหารสถานศึกษาก่อน และสถานศึกษา ก็จะต้องพิจารณาว่า กิจกรรมที่จัดมีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งกิจกรรมที่จัดต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลทางร่างกาย ไม่มีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องเด็ดขาด