x close

คสช. เปิดผลการปฏิบัติงานในรอบ 3 เดือน


คสช. สรุปผลงาน 3 เดือน ออกทีวี ค่ำวันนี้ (1 ก.ย. 57)
คสช. เปิดผลการปฏิบัติงานในรอบ 3 เดือน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          คสช. เปิดผลการปฏิบัติงานในรอบ 3 เดือน ชี้เดินหน้าลุยงานตามโรดแม็ป พร้อมเผยปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำดีขึ้น

          วันที่ 1 กันยายน 2557 เวลา 18.03 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สรุปผลงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ที่ คสช. ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมของประเทศในด้านการเมืองดีขึ้น และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คสช. ก็ได้ดำเนินงานตามโรดแม็ปที่วางไว้ ทำให้ปัญหาเฉพาะหน้าได้รับการแก้ไขจนสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนปัญหาอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนและหมักหมมมาเป็นระยะเวลานานนั้น จำเป็นต้องอาศัยเวลาในการแก้ไขปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

          สำหรับการบริหารราชการแผ่นดินของ คสช. ในระยะเวลา 3 เดือน มีรายละเอียด ดังนี้

โรดแม็ป ระยะที่ 1

          เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วน และขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินในเรื่องที่ติดขัดและเป็นปัญหา เพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ต่อไป และที่ผ่านมา คสช. ได้ดำเนินการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนหลายด้าน ทั้งค่าครองชีพ การจัดระเบียบสังคม การแก้ปัญหาสินค้าเกษตร

          ทั้งยังได้มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่ง (สนช.) ขึ้นมาทำหน้าที่ดำเนินการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 เพื่อให้สามารถประกาศใช้ได้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 และในลำดับต่อมา เป็นขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีรัฐบาลสมบูรณ์มาบริหารประเทศ ก่อนที่จะเดินหน้าเข้าสู่โรดแม็ประยะที่ 2 ต่อไป

โรดแม็ป ระยะที่ 2

          การใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), การสรรหานายกรัฐมนตรี, การยกร่างรัฐธรรมนูญ และการจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติในกรอบเวลา 1 ปี โดยหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา

          ภายหลังจากที่ คสช. ได้ดำเนินการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 200 คน ขึ้นมาทำหน้าที่แทนรัฐสภา อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การตราพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด และกฎหมายอื่น ๆ และเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธาน และรองประธาน สนช. ก็ได้มีการเรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ทันที

          และเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุม สนช. ได้มีมติเอกฉันท์ 191 เสียง เลือก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 นอกจากนี้ คสช. ยังได้เดินหน้าสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาทำหน้าที่ศึกษาและเสนอแนะ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การปกครองท้องถิ่น การศึกษา เศรษฐกิจ และพลังงาน เป็นต้น เพื่อให้การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย มีระบบการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม มีกลไกป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ และขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม

          ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจของประเทศนั้น พบว่า นับตั้งแต่มีการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ทั้งในส่วนของจีดีพีที่มีการปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็มีการปรับขึ้นต่อเนื่องจนมาอยู่ที่ระดับ 89.7 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือว่า เป็นเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 8 เดือน

          นอกจากการเตรียมความพร้อมเพื่อเดินหน้าตามโรดแม็ปแล้ว คสช. ยังได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

ด้านความมั่นคง

          คสช. เน้นการสร้างความปรองดองและความสมานฉันท์ เนื่องจากถือเป็นเรื่องเร่งด่วน นอกจากจะจัดกิจกรรมสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปแล้ว แต่ละหน่วยงานยังกำหนดแผนงานในส่วนของตนเองให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดเวทีการปรึกษาหารือในท้องถิ่น การจัดกิจกรรมการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อคืนความสามัคคีในสังคม

ด้านเศรษฐกิจ

          ในการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น พล.อ. ประยุทธ์ ได้มอบนโยบายแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ห้ามทำการแทรกแซงตลาดเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการบิดเบือนราคา แต่ขอให้เน้นการลดต้นทุนการผลิตและหาตลาดใหม่ ๆ แทนนอกจากนี้ ยังได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือชาวสวนยางเป็นเงินกว่า 6,600 ล้านบาท โดยมอบให้เกษตรกรชาวสวนยางไปแล้วกว่า 80,000 ราย

          ขณะที่การปัญหาราคาอ้อย คสช. ก็ได้อนุมัติเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิตปี 2556/2557 อัตรา 160 บาทต่อตัน เพื่อจ่ายตรงให้ชาวไร่อ้อยที่ส่งผลผลิตเข้าโรงงานน้ำตาลจำนวน 103.67 ล้านต้น ส่งผลให้ชาวไร่อ้อยกว่า 3 แสนรายได้รับส่วนแบ่งผลผลิตเพิ่มขึ้น

          และในส่วนของข้าว พบว่า ยังมีข้าวคงเหลือจากโครงการรับจำนำข้าว กว่า 18 ล้านตัน ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบพบว่า เป็นข้าวที่มีสภาพปกติ คิดเป็นร้อยละ 80.1 ขณะที่ข้าวสภาพผิดปกติ คิดเป็นร้อยละ 17.6 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 2.2 นั้น ไม่สามารถระบุสภาพข้าวได้ เนื่องจากสภาพกระสอบเปื่อยยุ่ยหรือมีการจำหน่ายข้าวไปแล้ว

          แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ได้เจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับประเทศจีน ซึ่งไทยจะมีการส่งมอบข้าวให้กับจีนตามสัญญาเดิมที่เหลือ 9 แสนตัน โดยจะดำเนินการทุกเดือน เดือนละ 80,000-100,000 ตัน จนถึงเดือนกันยายน 2558 นอกจากนี้ จีนยังสนใจสั่งซื้อปลายข้าวเพิ่มเติมจากไทย จำนวน 100,000 ตันอีกด้วย

ด้านกฎหมาย


          นอกจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และการเร่งดำเนินการแก้ไขกฎหมายด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ก็ยังได้ดำเนินการให้ฝ่ายกฎหมายฯ ผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและการพัฒนาเศรษฐกิจ รวม 11 ฉบับ อาทิ การเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่ได้รับเงินต่ำกว่าเดือนละ 9,000 บาท และการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น

          และในส่วนของร่าง พ.ร.บ.  ที่เป็นประโยชน์แก่สังคมและกำลังเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ในวาระแรกนั้น มีทั้งร่าง พ.ร.บ.การทวงหนี้ ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อคุ้มครองสิทธิของลูกหนี้และผู้ค้ำประกัน เป็นต้น
  
ด้านสังคมจิตวิทยา

          มีทั้งในส่วนของแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า การปฏิรูประบบการให้บริการด้านสุขภาพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแผนรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ทั้งยังกำหนดมาตรการเฝ้าระวังโรค ตลอดจนเร่งพัฒนาห้องปฏิบัติการ เพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นภายในประเทศ

          อย่างไรก็ดี แม้ คสช. สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่มีอยู่ไปได้บ้างส่วน แต่ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อร่วมกันสร้างประเทศเทศไทยที่เข้มแข็ง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และการก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คสช. เปิดผลการปฏิบัติงานในรอบ 3 เดือน อัปเดตล่าสุด 1 กันยายน 2557 เวลา 21:59:12 10,158 อ่าน
TOP