เปิดบทสัมภาษณ์ อภิสิทธิ์ ต่อรัฐบาลใหม่ คณะรัฐมนตรี คสช.
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Abhisit.M.Vejjajiva
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดบทสัมภาษณ์ ทัศนคติเรื่องการทำงานของ ครม. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้โจทย์ที่สำคัญจากนี้คือการปฏิรูป และการมีรัฐบาลที่โปร่งใส ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 รายการต้องถาม ของสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ ซึ่งดำเนินรายการโดย อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้มีการเผยบทสัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงทัศนะและความคาดหวังจากการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คสช. ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ส่วนตัวเขาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้คำแนะนำใด ๆ ต่อการทำงานของ ครม. ได้ อย่างไรก็ตาม เขามองว่าสิ่งที่ประชาชนคาดหวังมากที่สุดหลังการรัฐประหารก็คือ บ้านเมืองจะสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้ และเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่การเลือกตั้งดังเดิม ก็จะมีโจทย์ที่ทุกคนคาดหวังมากที่สุด 2 ข้อ คือการปฏิรูปประเทศ และการได้เห็นรัฐบาลที่ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น
และแม้บางคนจะกล่าวว่าไม่ชอบการรัฐประหาร แต่ขณะนี้ประชาชนก็ดูจะมีความสุขและเห็นว่าบ้านเมืองดีขึ้นมากกว่ารัฐบาลที่แล้วซึ่งมาจากการเลือกตั้ง เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์มองว่า สิ่งต่าง ๆ สืบเนื่องจากการรัฐประหารทุกครั้งมักเกิดขึ้นจากสภาพปัญหาของบ้านเมืองที่ไร้ทางออก ก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้คนมีความวิตกกังวลว่าจะมีการฆ่าฟันกันหรือไม่ กังวลด้านความปลอดภัย ไม่มีความสงบเรียบร้อยโดยที่รัฐบาลก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ ดังนั้นตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมาหลังรัฐประหาร คสช. ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องใช้อำนาจเด็ดขาดในการแก้ปัญหา ทั้งการจ่ายเงินให้ชาวนาและการปราบปรามกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ ซึ่งเมื่อบ้านเมืองกลับสู่ความสงบ คนก็มองว่าบ้านเมืองสงบและสบายกว่าเดิม ทุกคนพึงพอใจแม้จะถูกจำกัดสิทธิในบางเรื่องก็ตาม และเป็นความจริงที่ หัวหน้า คสช. ยังสามารถรักษาระดับความพึงพอใจของประชาชนไว้ได้ แม้ว่าเวลา 3 เดือนจะนับว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอควรก็ตาม
อย่างไรก็ดีต่อจากนี้นับเป็นงานยากของหัวหน้า คสช. เพราะหลายคนมีความเห็นต่างทำให้รัฐบาลต้องประสบความยากลำบากพอสมควร และส่วนตัวนายอภิสิทธิ์อยากเตือนว่า แม้ปัญหาด้านเศรษฐกิจตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา อาจได้รับแรงช่วยจากความนิ่งของการเมืองกับการจ่ายเงินให้แก่ชาวนา แต่จากนี้ไปคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีปัจจัยต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ในต่างประเทศ ราคาพืชผลที่ตกต่ำ รวมถึงข้อจำกัดเรื่องงบประมาณปี 2558 ซึ่งต้องนำไปจ่ายหนี้ให้แก่นโยบายเก่า ๆ โดยที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้เลย มันยากทั้งการปฏิรูปและเศรษฐกิจ แต่นี่คือโจทย์ที่ ครม. ชุดนี้จะต้องเข้ามาแก้ไข
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังเผยว่า เท่าที่เคยสัมผัสการทำงานร่วมกับบุคคลใน ครม. ชุดปัจจุบันมาหลายคน ส่วนตัวมองว่าแต่ละคนนั้นมีวินัยในการทำงาน มีความจริงจัง และตั้งใจจริง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบทบาทจากที่หลายคนไม่เคยทำงานในตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันนี้มาสวมหมวกในฝ่ายการเมือง ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาไม่น่าเป็นปัญหา แต่คงจะต้องมาทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนโยบายด้วย
สำหรับมุมมองของต่างชาตินั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่า รัฐมนตรีที่จะถูกต่างชาติจับตามองเป็นพิเศษ คงจะหนีไม่พ้นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามแม้ว่าต่างชาติอาจจะมองว่าใน ครม. ชุดนี้มีทหารและข้าราชการอยู่มาก แต่นั่นก็เป็นภาพลักษณ์ที่เราคงจะไปเปลี่ยนใจเขาไม่ได้ ตนมองว่า พล.อ. ประยุทธ์ คงจะอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเมื่อเข้ายึดอำนาจแล้วจะต้องเป็นคนขับเคลื่อนประเทศไปให้ได้ ส่วนบุคคลใน ครม. คาดว่า พล.อ. ประยุทธ์ คงตัดสินใจแล้วว่าบุคคลเหล่านี้จะเป็นคนที่รู้งาน สามารถทำหน้าที่ได้ ซึ่งท่านจะต้องสามารถควบคุมและขับเคลื่อนไปในทิศทางที่มั่นใจว่าทำได้ และจากนี้ขอให้วัดกันที่ผลงาน
ในด้านทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ นายอภิสิทธิ์เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้ด้วยดี แม้จะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรี แต่จากประสบการณ์และความสามารถเชื่อว่าจะสามารถทำหน้าที่ได้ดี อย่างไรก็ตามการบริหารงานตลอดระยะเวลา 1 ปีนี้จะต้องมีการตัดสินใจเชิงนโยบายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก็ต้องเป็นเรื่องที่รอการพิสูจน์ความสามารถด้านนโยบายของแต่ละคนกันต่อไป แต่สิ่งที่จะให้การทำงานเป็นไปในทิศทางของการปฏิรูป แต่ละคนก็ต้องฟังเสียงที่กว้างขวางกันมากกว่าเดิม และจะต้องไม่ลืมว่าบทบาทใหม่ของตนใน ครม. ต้องมุ่งไปสู่การปฏิรูป โดยมีสภาปฏิรูปเป็นองค์กรสำคัญที่มาช่วกระตุ้นการขับเคลื่อน
และหากจะมองในประเด็นว่า เมื่อ คสช. ได้กลายมาเป็น ครม. ในขณะนี้ ควรจะมีกระบวนการตรวจสอบใด ๆ หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์มองว่า การใช้อำนาจใด ๆ ก็ตาม หากไม่มีการตรวจสอบก็นับว่าเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการที่อำนาจนั้นจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเห็นว่า ครม. มีความโปร่งใสอย่างแท้จริงซึ่งจะช่วยรักษาความเชื่อมั่นในระยะปานกลางและระยะยาวได้นั้น คือการให้ประชาชนเป็นผู้เข้ามาตรวจสอบ โดยแต่ละคนต้องมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ผู้วิจารณ์จะต้องมีความคิดเห็นที่สุจริต มีความตั้งใจเพื่อบ้านเมือง มิใช่การแสดงความคิดเห็นเพื่อยุแยงให้เกิดปัญหากัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปประเทศนั้นไม่มีการปฏิรูปใดที่สามารถทำได้เสร็จสิ้นภายในปีเดียว เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่ แต่สิ่งที่เขาคาดหวังว่าควรจะเสร็จภายใน 1 ปี ก็คือการกระจายอำนาจที่ต้องทำให้ชัดเจน การปฏิรูปตำรวจ และการจัดการด้านพลังงาน นอกจากนี้ยังหวังให้ สนช. สามารถผ่านร่างกฎหมายได้ภายใน 1 ปีด้วย
และนี่คือบางส่วนที่นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงทัศนะของเขากับรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งนี้สามารถรับฟังคำสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ในคลิปด้านล่างนี้