ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปัดกระแสซุกเงิน 2 หมื่นล้าน ชี้ไม่ได้รวยขนาดนั้น หากมีเงินคงนำมาทำประโยชน์ให้ประเทศแล้ว วอนประชาชนใช้วิจารณญาณในการเปิดรับข้อมูล
วานนี้ (12 กันยายน 2557) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ถึงกรณีที่เริ่มมีการต่อต้านทั้งโดยเปิดเผยและทางลับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นตามลำดับ และมีการกล่าวให้ร้ายกันทางโซเชียลมีเดีย โดยอยากจะขอร้องให้ประชาชนช่วยกันลืมตาให้กว้าง ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ ว่าเราแต่ละคนมีหน้าที่อย่างไร ต้องทำอย่างไรเพื่อร่วมกันทำให้ประเทศชาติไทยของเราเดินหน้าต่อไปให้ได้ หากทุกคนรออย่างเดียวว่าเมื่อไรจะมีการจะยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิกกฎหมายพิเศษ เพื่อจะได้มีการเคลื่อนไหวต่อไป ตนคิดว่าเราคงปฏิรูปไม่ได้แน่นอน
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวต่อว่า ตนเข้าใจดีถึงปัญหาในเรื่องนี้และจะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งถ้าท่านอยากให้เราดำเนินการต่อไปได้ด้วยดี ก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็นการต่อต้าน หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่สร้างความขัดแย้ง ตนรับได้หากเป็นการติเพื่อก่อ แต่อย่าทำให้เกิดข้อขัดแย้งหรือนำปัญหาเก่า ๆ มาพูดกันใหม่อีก หากเรายังนำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องเก่าทั้งหมดมาจับผิดจับถูกกันในวันนี้ ยังพูดให้ร้ายซึ่งกันและกัน โดยไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เราทำงานไม่ได้หรอก หรือทำได้ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ทุกคนก็จะออกมาต่อสู้ มีความขัดแย้งกันอีก แล้วประเทศชาติเราจะสงบสุขได้อย่างไร
พล.อ. ประยุทธ์ ยังยกตัวอย่างถึงกรณีที่ตนเองก็ถูกบิดเบือนในโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยมีการปลอมเอกสารหัวท้าย ที่มีลายเซ็นของตน ขอให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาความจริงภายในข้อความดังกล่าว และธนาคารก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าตนไม่เคยมีบัญชีเงินฝากเหล่านั้น ส่วนกรณีที่มีการบอกว่าตนสั่งการให้ปกปิดเงินของน้องชาย 2 หมื่นกว่าล้าน ถ้าตนมีเงินขนาดนั้นจริงก็คงดีจะได้นำเงินมาใช้หนี้ให้พ่อแม่พี่น้อง หรือนำมาสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์ เป็นประวัติศาสตร์แก่แผ่นดินให้สมกับที่เกิดมาบนแผ่นดินนี้
ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังฝากเตือนไปยังประชาชนให้ช่วยพิจารณากันด้วย ในเรื่องต่าง ๆ ที่มีการพูดจริงบ้าง เท็จบ้าง และตนเกรงว่าคงมีบางคนที่หลงเชื่อในความเท็จ ซึ่งหากตนไม่ออกมาพูดอะไรเลยก็คงจะเป็นเช่นนี้ไปตลอด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก