ทวารบาลติดฝิ่น วัดบวรฯ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @mnakin
ไม้แกะสลักรูปเทวดา วัดบวรฯ โดนป้ายปากด้วยสีดำ ชาวเน็ตข้องใจ เกิดจากอะไรกันแน่ คาดมีที่มาจากตำนาน ทวารบาลติดฝิ่น วัดบวรฯ
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัย เมื่อมีผู้โพสต์ภาพ ไม้แกะสลักรูปเทวดาที่ประตูทางเข้า วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งถูกป้ายด้วยสีดำ จนดูคล้ายมีเลือดไหลออกจากปาก ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ แล้วคนทำทำไปเพื่ออะไร ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบพบว่า มีการอธิบายถึงเรื่องนี้ในตำนาน ทวารบาลติดฝิ่น ที่บานประตูกำแพงแก้ว วัดบวรฯ ว่า มีทวารบาลจีนแท้ขนาดใหญ่ แต่งตัวถืออาวุธแบบจีนโบราณ เหมือนเป็นภาพแกะไม้ ปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ ซึ่งคนเรียกประตูนี้ว่า ประตูเซี่ยวกาง ที่สร้างตามคตินิยมแบบจีน
โดยได้มีการเล่าถึงตำนานทวารบาลของประตูเซี่ยวกางว่า ในยุคที่เมืองไทยยังดูดฝิ่นได้ มีชาวจีนคนหนึ่งติดฝิ่นจนงอมแงม แต่เมื่อทางการได้ปราบทำลายโรงงานยาฝิ่นจนหมด ทำให้เขาหาฝิ่นดูดไม่ได้ จนกระทั่งมาลงแดงเสียชีวิตอยู่ที่ประตูดังกล่าว จากนั้นเมื่อทางวัดมาพบก็ได้ทำพิธีกงเต๊กให้ ต่อมาดวงวิญญาณของชาวจีนรายนั้นก็ไปเข้าฝันสมเด็จท่านเจ้าอาวาสว่า ให้ทำที่ให้เขาอยู่ แล้วเขาจะช่วยเฝ้าวัดให้ ทางวัดจึงได้สร้างกำแพง ทำซุ้มประตู แล้วอัญเชิญดวงวิญญาณของเขามาสถิตอยู่ที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ได้มีเรื่องเล่ากันว่า ของในวัดที่เคยถูกขโมยไปหลายครั้ง ล้วนได้กลับคืนมาทั้งหมดเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของดวงวิญญาณคนจีนที่คอยช่วยเฝ้าวัด จนทำให้มีการสักการบูชาประตูเซี่ยวกางขึ้น โดยหลายคนเชื่อว่าหากบนอะไรก็จะได้ตามที่ขอ จากนั้นก็จะเอาฝิ่นไปป้ายปากทวารบาลเพื่อแก้บน จนทำให้เกิดคราบสีดำตรงปากของทวารบาลนั่นเอง ต่อมาเมื่อฝิ่นหายากแล้ว เครื่องสักการะก็ได้เปลี่ยนเป็นกาแฟดำ ดอกไม้ ธูปเทียนแทน แต่เชื่อกันว่าความศักดิ์สิทธิ์ของทวารบาล วัดบวรฯ ยังคงมีอยู่เช่นเดิม
อนึ่งข้อมูลเกี่ยวกับทวารบาล วัดบวรฯ นี้ เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก