เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ พิษณุโลก ฮอตนิวส์ สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ชาวบ้านแห่พิสูจน์ จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ที่คลองชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก พบไข่กว่า 20 ฟอง วอนหน่วยงานดูแล หวั่นสัตว์อื่นทำลาย
วันนี้ (16 กันยายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปพิสูจน์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ที่เทือกเขาชมพู หลังจากที่ผ่านมามีการพูดกันปากต่อปากว่าพบจระเข้สายพันธุ์ดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผืนป่าในละแวกนั้นเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์มาก เพราะนอกจากจะเจอจระเข้สายพันธุ์ไทยแล้ว ยังพบสัตว์ป่าหายากอีกมากมายหลายชนิด
ทั้งนี้ชาวบ้านหลายคนพร้อมทีมข่าว พิษณุโลก ฮอตนิวส์ จึงรวมตัวกันเดินเท้าและใช้รถจักรยานยนต์ขับข้ามภูเขาและข้ามคลองชมพู เพื่อเข้าไปพิสูจน์ โดยจุดที่ว่านั้นอยู่ห่างจากหมู่บ้านขึ้นไปประมาณ 13 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง และตลอดเส้นทางก็เดินทางอย่างยากลำบากด้วย
อย่างไรก็ดีเมื่อไปถึงยังจุดดังกล่าว ก็พบจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยจริง ลำตัวยาวประมาณ 3 เมตร นอนนิ่ง ๆ ไม่กระดุกกระดิกแต่อย่างใด ส่วนชาวบ้านก็เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เนื่องจากเกรงว่าจระเข้ดังกล่าวอาจทำร้ายได้ นอกจากนี้ ห่างไปประมาณ 100 เมตร ชาวบ้านยังพบรังไข่ของจระเข้ด้วย ซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นมือ จำนวนกว่า 20 ฟอง พร้อมอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดูแล เพื่อจะได้อนุรักษ์จระเข้สายพันธุ์นี้ไว้
ขณะที่ นายบุญสืบ เผือกอ่อน อายุ 51 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่า ตนได้ขึ้นมาเลี้ยงวัวและหาของป่าที่เทือกเขานี้เป็นประจำ เคยพบเจอจระเข้สายพันธุ์ไทยหลายครั้ง และเคยถ่ายภาพยืนยันให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยว่ามีจระเข้อาศัยอยู่จริง ๆ ไม่ดุร้าย นอนนิ่ง ๆ ในป่า แต่หากเข้าใกล้ จระเข้ก็จะข่มขู่ตามสัญชาตญาณ ด้านชาวบ้านหลายคนที่พบก็พยายามแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดู แต่เจ้าหน้าที่ก็นิ่งเฉยไม่ได้ดำเนินการใด ๆ จนปัจจุบันไข่ของจระเข้ถูกสัตว์อื่นทำลายไปหลายใบ ตนก็รู้สึกเสียใจ แต่ทั้งนี้พวกตนก็ไม่ท้อ เพราะกลุ่มชาวบ้านชมพูจะร่วมมือกับในการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยเอาไว้ เพราะการที่สัตว์ป่ามาอาศัยอยู่แสดงว่าผืนป่าแห่งนี้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก
สำหรับจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยขณะนี้ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ในประเทศไทยเหลืออยู่น้อยมาก โดยก่อนหน้านี้ ดร.กฤษดา ดีอินทร์ นักวิชาการกรมประมง 7 หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยแหล่งน้ำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด พิษณุโลก สำนักวิจัยและพัฒนา ประมงน้ำจืด กรมประมง ก็ได้ร่วมกันชาวบ้านลงพื้นที่สำรวจระเข้สายพันธุ์ไทยในเขตต้นแม่น้ำคลองชมพู แต่ก็พบเพียงร่องรอยเท่านั้น ซึ่งการค้นพบจระเข้น้ำจืดที่คลองชมพูครั้งนี้ ถือว่าเป็นรายงานที่ยืนยันได้เป็นแหล่งที่ 3 ของประเทศไทย โดยชาวบ้านยืนยันว่าพบอาศัยอยู่อย่างน้อย 3 ตัว และยังมีการวางไข่ นับว่าเป็นจุดที่ประชากรจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย เหลืออยู่มากที่สุดในประเทศ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ พิษณุโลก ฮอตนิวส์ สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ชาวบ้านแห่พิสูจน์ จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ที่คลองชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก พบไข่กว่า 20 ฟอง วอนหน่วยงานดูแล หวั่นสัตว์อื่นทำลาย
วันนี้ (16 กันยายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปพิสูจน์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ที่เทือกเขาชมพู หลังจากที่ผ่านมามีการพูดกันปากต่อปากว่าพบจระเข้สายพันธุ์ดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผืนป่าในละแวกนั้นเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์มาก เพราะนอกจากจะเจอจระเข้สายพันธุ์ไทยแล้ว ยังพบสัตว์ป่าหายากอีกมากมายหลายชนิด
ทั้งนี้ชาวบ้านหลายคนพร้อมทีมข่าว พิษณุโลก ฮอตนิวส์ จึงรวมตัวกันเดินเท้าและใช้รถจักรยานยนต์ขับข้ามภูเขาและข้ามคลองชมพู เพื่อเข้าไปพิสูจน์ โดยจุดที่ว่านั้นอยู่ห่างจากหมู่บ้านขึ้นไปประมาณ 13 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง และตลอดเส้นทางก็เดินทางอย่างยากลำบากด้วย
อย่างไรก็ดีเมื่อไปถึงยังจุดดังกล่าว ก็พบจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยจริง ลำตัวยาวประมาณ 3 เมตร นอนนิ่ง ๆ ไม่กระดุกกระดิกแต่อย่างใด ส่วนชาวบ้านก็เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เนื่องจากเกรงว่าจระเข้ดังกล่าวอาจทำร้ายได้ นอกจากนี้ ห่างไปประมาณ 100 เมตร ชาวบ้านยังพบรังไข่ของจระเข้ด้วย ซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นมือ จำนวนกว่า 20 ฟอง พร้อมอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดูแล เพื่อจะได้อนุรักษ์จระเข้สายพันธุ์นี้ไว้
ขณะที่ นายบุญสืบ เผือกอ่อน อายุ 51 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่า ตนได้ขึ้นมาเลี้ยงวัวและหาของป่าที่เทือกเขานี้เป็นประจำ เคยพบเจอจระเข้สายพันธุ์ไทยหลายครั้ง และเคยถ่ายภาพยืนยันให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยว่ามีจระเข้อาศัยอยู่จริง ๆ ไม่ดุร้าย นอนนิ่ง ๆ ในป่า แต่หากเข้าใกล้ จระเข้ก็จะข่มขู่ตามสัญชาตญาณ ด้านชาวบ้านหลายคนที่พบก็พยายามแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดู แต่เจ้าหน้าที่ก็นิ่งเฉยไม่ได้ดำเนินการใด ๆ จนปัจจุบันไข่ของจระเข้ถูกสัตว์อื่นทำลายไปหลายใบ ตนก็รู้สึกเสียใจ แต่ทั้งนี้พวกตนก็ไม่ท้อ เพราะกลุ่มชาวบ้านชมพูจะร่วมมือกับในการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยเอาไว้ เพราะการที่สัตว์ป่ามาอาศัยอยู่แสดงว่าผืนป่าแห่งนี้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก
สำหรับจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยขณะนี้ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ในประเทศไทยเหลืออยู่น้อยมาก โดยก่อนหน้านี้ ดร.กฤษดา ดีอินทร์ นักวิชาการกรมประมง 7 หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยแหล่งน้ำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด พิษณุโลก สำนักวิจัยและพัฒนา ประมงน้ำจืด กรมประมง ก็ได้ร่วมกันชาวบ้านลงพื้นที่สำรวจระเข้สายพันธุ์ไทยในเขตต้นแม่น้ำคลองชมพู แต่ก็พบเพียงร่องรอยเท่านั้น ซึ่งการค้นพบจระเข้น้ำจืดที่คลองชมพูครั้งนี้ ถือว่าเป็นรายงานที่ยืนยันได้เป็นแหล่งที่ 3 ของประเทศไทย โดยชาวบ้านยืนยันว่าพบอาศัยอยู่อย่างน้อย 3 ตัว และยังมีการวางไข่ นับว่าเป็นจุดที่ประชากรจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย เหลืออยู่มากที่สุดในประเทศ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
