บิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงหายตัว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
ภรรยานายบิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงหายตัวไปอย่างลึกลับ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ล่าสุดได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลจังหวัดเพชรบุรี หลังมีการยกคำร้องไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (16 กันยายน 2557) น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภรรยาของนายบิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 ซึ่งยังหาตัวไม่พบจนถึงขณะนี้ พร้อมด้วย น.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมายื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลจังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากเห็นว่าพยานหลายปากที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เบิกความขัดแย้งกัน กรณีจำนวนน้ำผึ้งของกลางที่ไม่ได้มีจำนวนเล็กน้อยตามที่ถูกกล่าวอ้าง
น.ส.วราภรณ์ ระบุว่า ตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องคดีการหายตัวไปของนายพอละจี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้นวันนี้ (16 กันยายน) ทีมทนายความพร้อมด้วยภรรยาของนายบิลลี่ จึงได้มายื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าวต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี
ทั้งนี้ข้อโต้แย้งคำให้การของพยานแต่ละปากเบิกความไม่ตรงกัน มีพิรุธ ขัดต่อหลักเหตุผล อีกทั้งนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งอยู่กับนายบิลลี่เป็นครั้งสุดท้าย ยังเคยมีเหตุโกรธเคืองกับนายบิลลี่มาก่อน ในกรณีการไล่เผาพื้นที่ของชาวกะเหรี่ยงโป่งลึก บางกลอย ในปี 2554 จนนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง คดีดังกล่าวมีนายบิลลี่เป็นผู้ประสานงาน ประกอบกับประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ด้วยการลงนามอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล ที่จะไม่ถูกบังคับให้สูญหาย และรัฐมีหน้าที่ต้องค้นหาความจริง
ด้าน น.ส.พิณนภา กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับสามีของเธอเลย เธออยากเจอหลักฐานใดก็ได้ที่บอกว่าสามียังมีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่กันแน่ ไม่ใช่เงียบหายไปอย่างนี้ เธอยังเคยฝันเจอสามีครั้งหนึ่งด้วยว่าเขากำลังนอนหลับอยู่ในบ้านหลังหนึ่งกลางป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ไม่รู้ว่าป่าตรงไหน
สำหรับชีวิตตอนนี้จากที่คิดว่าจะอยู่ไม่ได้ ก็ต้องจัดการชีวิตใหม่เพื่อให้อยู่ให้ได้ บางครั้งรู้สึกทั้งท้อ ทั้งเหนื่อย ไม่ได้รับความยุติธรรม ยิ่งตอนนี้นายชัยวัฒน์กลับมาทำงานที่อุทยานยิ่งรู้สึกกลัวมาก และรู้สึกว่าคดีสามียังไม่ถึงที่สุด ทำไมถึงย้ายกลับมาได้
นอกจากนี้ น.ส.พิณนภา ยังได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้พิพากษาจังหวัดเพชรบุรี โดยมีเนื้อความระบุ ดังนี้
"หนู น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อาชีพทำไร่ปลูกข้าว ปลูกผักขาย เป็นภรรยาของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือนายบิลลี่ มีลูก 5 คน คนโต 10 ขวบ คนเล็กสุด 2 ขวบ ขอขอบคุณผู้พิพากษาศาลมากที่รับเรื่องคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ รับอุทธรณ์ต่อไว้ พิจารณาคดีต่อไป ก็ขอขอบคุณผู้พิพากษาศาล ผู้ให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนทุก ๆ คน และหนูหวังว่าผู้พิพากษาศาลจะพิจารณาคดีเรื่องนายพอละจี แล้วสุดท้ายหนูก็รอความหวังว่าจะให้ความยุติธรรมแก่หนูและครอบครัวบ้างค่ะ ด้วยความเคารพและนับถือ นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ลงวันที่ 15 กันยายน 255"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
