ชายแดนใต้ระอุ ระเบิดนราธิวาส เจ็บ 5 ยิงยะลาดับ 1
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สมาคมกู้ภัยนรา 01
ชายแดนใต้ระอุ เหตุระเบิดทหารและผู้ใหญ่บ้าน นราธิวาส เจ็บ 5 ประกบยิงชาวบ้านยะลาดับ 1 ส่วนปัตตานียังต้องคุมเข้ม หวั่นเผาโรงเรียนเพิ่ม ด้านผู้ว่าฯ ปัตตานี ยืนยัน เร่งซ่อมโรงเรียนให้เสร็จทันเปิดเทอมนี้แน่
วันนี้ (15 ตุลาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นริมถนนสายสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เบื้องต้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และในช่วงเวลาเดียวกันที่จังหวัดยะลา มีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนประกบยิง นายอาดือลี วาแล๊ะ อายุ 24 ปี เสียชีวิต
โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่บ้านกวาลอซีราออก ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทราบเบื้องต้นว่า เจ้าหน้าที่ทหารและผู้ใหญ่บ้านได้มาที่จุดเกิดเหตุเพราะได้รับแจ้งว่าบริเวณดังกล่าวมีการพ่นสีสเปร์ย์ข้อความภาษายาวีต่อต้านการทำงานของรัฐบาลไว้บนผิวถนน จึงได้นำไปตรวจสอบก่อนจะช่วยกันใช้ทินเนอร์ลบข้อความดังกล่าว ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังลบข้อความบนผิวถนนอยู่นั้น ปรากฏว่าคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบวางไว้ใต้โคนต้นไม้ริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและผู้ใหญ่บ้านได้รับบาดเจ็บ 5 คน เบื้องต้นได้นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อเข้ารักษาตัวและทำการปฐมพยาบาลขั้นต้น โดยรายชื่อผู้บาดเจ็บมีดังนี้
ร.ต. คุณานนท์ เพิ่มพรศรี ผบ.มว.ปล.ที่ 3 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณสะโพกซ้าย
จ.ส.อ. สถิตย์ เบ้าแก้ว ผบ.ผมู่ปืนเล็กที่ 1 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณท้าทาย
จ.ส.อ. ณรงค์ จันทร์เพ็ง รอง ผบ.มว.ที่ 3 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าอกเล็กน้อย
นายมูหะมะอาสรี มะรือซะ ผู้รักษาความสงบ ม.4 ต.ปาเสมัส มีอาการหู้อื้อ
นายสุรินทร์ เจ๊ะนุ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ตงปาเสมัส มีบาดแผลถลอกบริเวณหน้าอก
ทั้งนี้ได้มีการสั่งการให้กองกำลังผสม อ.สุไหงโก-ลก เดินทางพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นพป.) และกองวิชาการเข้าเก็บวัตถุพยานเพิ่มติมในที่เกิดเหตุแล้ว
ส่วนที่จังหวัดยะลา มีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนประกบยิง นายอาดือลี วาแล๊ะ อายุ 24 ปี ชาวอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในหมู่บ้านตะโน๊ะมูดู ม.1 จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่หรือเป็นความขัดแย้งส่วนตัว
นอกจากนี้ หน่วยงานข่าวกรองด้านความมั่นคงที่ จ.ปัตตานี ยังคงแจ้งเตือนมาว่า กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ มีแผนที่จะลอบวางเพลิงอาคารเรียนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองของจังหวัด รวมทั้งกำลังอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน มีการตรึงกำลังเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนและสถานที่สำคัญต่าง ๆ อีกทั้งตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณพื้นที่เป้าหมาย เพื่อกดดันกลุ่มคนร้ายที่จะเข้ามาก่อเหตุได้ ซึ่งจากมาตราการเข้มข้นดังกล่าวทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่เกิดเหตุรุนแรงที่ จ.ปัตตานี แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมแกนนำของผู้ก่อความไม่สงบพร้อมกับอาวุธได้ในพื้นที่ ทั้งนี้ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และมีแนวทางทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยหวังให้ผู้ที่มีความเห็นต่างกับรัฐให้ความร่วมมือด้วยการเข้ามาพูดคุย แต่ขอย้ำว่าจะไม่มีการแบ่งแยกดินแดนอย่างแน่นอน
ส่วน โรงเรียนทั้ง 6 แห่งที่ถูกคนร้ายเผา จะมีการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน โดยรายงานข่าวระบุว่า ร.ต. สมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้สั่งการให้วิศวกรไปประเมินดูว่าอาคารโรงเรียนที่ถูกเผาจะปรับปรุงหรือซ่อมแซมอย่างไรได้บ้าง ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นทางกระทรวงศึกษาธิการจะดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และยืนยันได้ว่าเด็กในโรงเรียนที่เกิดเหตุจะได้เรียนพร้อมกับเด็กอื่น ๆ ในช่วงเปิดเทอมนี้แน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
