x close

เผยปมหญิงจุดไฟเผาตัวเอง ถูกหลอกเซ็นรับหนี้-ยึดที่ดินทำกิน


เผยปมหญิงจุดไฟเผาตัวเอง ถูกหลอกเซ็นรับหนี้-ยึดที่ดินทำกิน
เผยปมหญิงจุดไฟเผาตัวเอง ถูกหลอกเซ็นรับหนี้-ยึดที่ดินทำกิน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ข่าวสด 

            ป้าสังเวียน หญิงจุดไฟเผาตัวเองเจ็บหนัก เหตุจากปมปัญหาที่ดินทำกิน หลังก่อนหน้านี้เคยเข้าร้องเรียนว่าถูกหลอกให้เซ็นยอมรับหนี้กว่าล้าน เพราะไม่รู้หนังสือ ทั้งที่เป็นหนี้จริงแค่ 4 แสน แถมถูกยึดที่นา วอนผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ

            จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (15 ตุลาคม 2557) นางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ ชาวลพบุรี อายุ 54 ปี ได้เดินทางมายื่นหนังสือกรณีที่ดินทำกินที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะจุดไฟเผาตัวเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดับไฟแล้วนำตัวส่งวชิรพยาบาลอย่างเร่งด่วน ภายหลังแพทย์ได้แจ้งว่าอาการของนางสังเวียนปลอดภัยแล้ว แต่ผิวหนังถูกไฟไหม้ไป 50% และอาจมีปัญหาที่ดวงตา จึงต้องขอตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งนั้น

            เว็บไซต์ข่าวสด ได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมโดยอ้างแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ประเด็นปัญหาของนางสังเวียนนั้นเกี่ยวกับเรื่องที่ดินทำกิน โดยนางสังเวียนเคยมายื่นเรื่องร้องเรียนถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่หลายครั้ง

            ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2557 โดยนางสังเวียน ระบุว่า นางสาวธิดารัตน์ เทพอารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ได้พาผู้ใหญ่บ้านและตำรวจจำนวนหนึ่ง บุกมาทวงหนี้ที่บ้าน ในหมู่ 5 ต.วังจั่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี โดยนางสาวธิดารัตน์กล่าวหาว่านางสังเวียนเป็นหนี้ 3 ล้านบาท แต่นางสังเวียนปฏิเสธและไม่ยอมให้จับกุมตัว

            จากนั้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2557 นางสังเวียนได้เข้าร้องเรียนว่าถูกเจ้าหนี้ยึดที่นาประมาณ 100 ไร่ ประกอบด้วยไร่ข้าวโพด ไร่ฟักทอง และนาข้าว ซึ่งลงทุนเพาะปลูกไปกว่า 2 แสน และกำลังจะเก็บเกี่ยวผลผลิตในอีก 2 สัปดาห์ แต่เจ้าหนี้กลับบุกเข้ามาที่บ้านพักเพื่อเร่งรัดให้จ่ายหนี้สิน ให้ขายบ้านและที่ดิน ไร่ นา ทั้งหมด เพื่อชำระหนี้

            นอกจากนี้ยังมีเงินที่ได้กู้ยืมมาเพื่อลงทุนอีกจำนวน 4 แสนบาท แต่ในเอกสารประนอมหนี้ที่มีนายอำเภอเป็นพยานและช่วยไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ กลับระบุว่านางสังเวียนเป็นหนี้ถึง 1.5 ล้านบาท โดยที่นางสังเวียนไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่รู้หนังสือ มาทราบก็เมื่อมีเจ้าหนี้นำเอกสารฉบับนี้ไปใช้ฟ้องร้องต่อศาล จนมีหมายศาลมาถึงตัว

            ขณะที่ในเอกสารดังกล่าวยังระบุว่า นางสังเวียนยอมรับว่ายังได้ยืมเงินจากเจ้าหนี้รายหนึ่ง ครั้งแรก 4 หมื่นบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ส่งดอกเบี้ยทุกเดือน ยืมครั้งที่ 2 อีก 4 หมื่นบาท เพื่อใช้ในงานแต่งงานลูกชาย แต่ส่งเฉพาะดอกเบี้ยมาตลอดทุกเดือน เดือนละประมาณ 7 พัน-3 หมื่นบาท ตั้งแต่ต้นปี 2554 กระทั่งเดือนธันวาคม 2556 ได้หยุดส่งดอกเบี้ยไป เพราะไม่มีเงิน โดยเงินที่นำมาส่งดอกนั้นเป็นของ นางสาคร รักษาเพ็ชร์ ผู้เป็นญาติ แล้วจึงถูกทวงถามหนี้ที่ได้ยืมมาแบบปากเปล่าไม่เคยมีสัญญา

            ต่อมาในวันที่ 20 มิถุนายน 2557 นางสังเวียนระบุว่า เจ้าหนี้ได้มาด่าทอว่าเป็นหนี้ 3 ล้านบาท ก่อนที่ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 จะได้ไปประนอมหนี้ต่อหน้าปลัดอำเภอและนายอำเภอโคกสำโรง โดยเจ้าหนี้บอกว่าเป็นหนี้ 2.5 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 11 กันยายน 2557 ได้ไปที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรี ทางเจ้าหนี้ระบุว่ามีหนี้สินอยู่ 1.6 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 21 กันยายน 2557 ได้ไปตามทวงขอคืนที่ทำกินจากเจ้าหนี้อีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวในที่ดิน

            กระทั่งวันที่ 22 กันยายน 2557 นางสังเวียน ได้เดินทางมาติดตามเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน พร้อมกับร้องทุกข์ว่าถูกนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ หลอกให้เซ็นสัญญาที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง ว่าเป็นหนี้ 1.5 ล้านบาท ทั้งที่เป็นหนี้เพียง 4 แสนบาท เพราะตนเองไม่รู้หนังสือ จึงมาขอความเมตตาให้ผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ

            ทั้งนี้ในเอกสารร้องเรียนของนางสังเวียนระบุว่า

                    1. หนี้สินที่เกิดมานี้เกิดมาจากข้าพเจ้าพาคนมากู้เงินกับเจ้าหนี้ เพราะทั้งสองฝ่ายยินยอมให้กันเอง แล้วนำไปใช้กันเอง บางส่วนก็เก็บไม่ได้ เจ้าหนี้เลยนำมาให้ข้าพเจ้ารับใช้แต่เพียงผู้เดียว ข้าพเจ้าก็รับใช้ เจ้าหนี้ไม่ยอม และพยายามบีบทุกอย่างเท่าที่ทำได้กระทั่งต้องขายรถไถเพื่อหักค่าไถนาและนำเงินที่เหลือไปใช้เจ้าหนี้ แต่เขาบอกว่าไม่ได้

                    2. หนี้สินที่รับสภาพหนี้ 1.5 ล้านบาท ขอให้อยู่กับตัวข้าพเจ้าแค่อายุ 60 ปี ชราภาพ ห้ามนำไปฟ้องร้องกับสามีและบุตรของข้าพเจ้าหรือทุกคนทั้งสิ้น เพราะสามีและบุตรไม่มีส่วนรู้เรื่องในหนี้ส่วนนี้ และเวลาที่ข้าพเจ้าไปเก็บดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้และนำเงินอย่างน้อย 8-9 หมื่นบาทไปให้โดยที่ไม่เคยได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับสามีและบุตรของข้าพเจ้า หรือหากข้าพเจ้าเสียชีวิตไปก่อนก็ห้ามนำมาฟ้องร้อง

                    3. ขอให้เจ้าหนี้คืนที่เช่าทำกิน

                    4. ให้เจ้าหนี้คืนค่าเสียหายจากการที่เจ้าหนี้ยึดที่ทำกิน เพื่อให้ผู้เช่ารายใหม่ทำกิน ทั้งที่ข้าพเจ้าได้ลงทุนไว้ก่อน

            สำหรับเรื่องร้องเรียนของนางสังเวียนนี้ ทางศูนย์บริการประชาชนได้ส่งเรื่องไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้จัดทำบันทึกประนีประนอมยอมความ และประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ลพบุรี เพื่อให้ไกล่เกลี่ยหนี้ให้เหลือ 4 แสนบาท ดังที่นางสังเวียนร้องขอ ซึ่งเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการศูนย์ดำรงธรรม จ.ลพบุรี ได้ประชุมเพื่อช่วยเหลือนางสังเวียน และแจ้งให้ทราบว่า ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ได้ประสานเรื่องไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ คลัง จ.ลพบุรี และธนาคารออมสินแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผยปมหญิงจุดไฟเผาตัวเอง ถูกหลอกเซ็นรับหนี้-ยึดที่ดินทำกิน อัปเดตล่าสุด 19 ตุลาคม 2557 เวลา 19:28:04 27,232 อ่าน
TOP