สั่งย้าย ผกก.สภ.บึงนาราง หลังลูกน้องยกโรงพักร้องถูกข่มเหง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
ตำรวจ สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร ยกโรงพักแห่ร้องขอความเป็นธรรม อ้างผู้กำกับการ สภ.บึงนาราง ชอบใช้ปืนจ่อศีรษะผู้ใต้บังคับบัญชา เบื้องต้น มีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.บึงนาราง ไปช่วยราชการที่กองบังคับการสืบสวนภาค 6
วันที่ 20 ตุลาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าราชการตำรวจ สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร กว่า 41 คนได้เดินทางมายังบริเวณศาลากลางพิจิตร เพื่อยื่นหนังสือต่อ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พล.ต. ไสว พลการ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ เพื่อขอให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจลงนามย้าย พ.ต.อ. รังสรรค์ กาญจนรัตน์ ผกก.สภ.บึงนาราง ไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาไม่สามารถรับสนองนโยบายที่เกินกว่าเหตุ ระบุว่า ถูก พ.ต.อ. รังสรรค์ ลุแก่อำนาจและใช้อำนาจในการปกครอง ในลักษณะเป็นการกดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชา โดยอ้างว่า พ.ต.อ. รังสรรค์ เคยใช้กำลังรวมถึงเคยใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะและหน้าอกของผู้ใต้บังคับบัญชาหลายครั้ง เนื่องจากไม่พอใจที่ทำงานชักช้า
นอกจากนี้ผู้ใต้บังคับบัญชาบางรายกล่าวอ้างว่า เคยถูก พ.ต.อ. รังสรรค์ ใส่กุญแจมือ และสั่งให้นอนราบกับพื้นก่อนที่จะใช้เท้าเหยียบหน้าอกต่อหน้าผู้อื่น เรื่องดังกล่าวทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหวาดกลัวอย่างยิ่ง จึงได้รวมตัวมาเพื่อร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ย้าย พ.ต.อ. รังสรรค์ ออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ หากสุดท้ายแล้วไม่มีการย้าย พ.ต.อ. รังสรรค์ ออกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สภ. ก็จะขอย้ายตัวเองมาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจทั้งหมดแทน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงนาราง ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เพื่อยื่นหนังสือดังกล่าวต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และผู้บัญชาการภาค 6 โดยมี พล.ต.ต. สุรศักดิ์ เย็นเปรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ พ.ต.อ. ศักดิ์สิทธิ์ นาราพิสุทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร มารับหนังสือ ก่อนจะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดเข้าห้องประชุม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
หลังจากนั้นไม่นาน ไม่มีคำสั่งให้ พ.ต.อ. รังสรรค์ กาญจนรัตน์ ผกก.สภ.บึงนาราง มาช่วยราชการที่กองบังคับการสืบสวนภาค 6 เป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการแยกคู่กรณีออกจากกัน ระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุที่ผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาร้องเรียนตนนั้น น่าจะเกิดจากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยปลัดอำเภอบึงนาราง เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สนธิกำลังเข้าจับกุมผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน แต่ระหว่างที่ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาอยู่นั้น ปรากฏว่า หมวดแก ซึ่งเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บึงนาราง ได้ขับรถยนต์เข้ามาในที่เกิดเหตุ พร้อมต่อว่า ที่มีการจับกุมผู้ต้องหา และกล่าวอ้างว่า เก็บเงินให้ตนเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งตนได้โต้กลับไปว่า ไม่เคยสั่งให้ไปเก็บเงินกับใคร
ขณะที่ผู้ต้องหาก็ยืนยันว่า ไม่เคยจ่ายเงินให้ตน แต่ยอมรับว่าส่งเงินให้หมวดแกจริง เมื่อทราบเรื่อง ตนจึงได้เดินเข้าไปจับกุมหมวดแกทันที แต่หมวดแกไม่ยอมจึงทำให้เกิดการฉุดกระชากกัน สุดท้ายตนตัดสินใจเดินไปหยิบอาวุธปืนที่รถยนต์ ก่อนนำอาวุธปืนมาจ่อที่ศีรษะหมวดแก พร้อมบอกหมวดแกให้วางอาวุธและนอนลงกับพื้น จากนั้นตนจึงใช้เท้าเหยียบหลังจับใส่กุญแจมือ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีพยานรู้เห็นอยู่หลายคน และตนยังมีหลักฐานเป็นรูปถ่าย รวมถึงเทปบันทึกเสียงอีกด้วย
พ.ต.อ. รังสรรค์ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเรื่องตนก็ได้ปล่อยตัวหมวดแกกลับไปก่อน โดยจะมีการดำเนินคดีหมวดแกในภายหลัง แต่ปรากฏว่า หมวดแก รวมทั้งตำรวจ สภ.บึงนาราง ที่ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ ได้รวมตัวไปร้องเรียนตนกับผู้บังคับบัญชา ซึ่งเรื่องที่มีการไปร้องเรียนนั้นไม่เป็นความจริงเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
