จับแล้ว คนร้ายชกสาวในลานจอดรถห้างดังบางนา อ้างจำผิด
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก js100
ตำรวจรวบคนร้ายก่อเหตุชกสาวในจอดรถห้างดังย่านบางนาได้แล้ว อ้างจำผิด คิดว่าเป็นรถยนต์ของคู่กรณีที่ขับชนแล้วหนี
จากกรณีที่ น.ส.นภาพร กาญจนพิทักษ์กุล อายุ 40 ปี ถูกชายคนหนึ่งเข้ามาทำร้ายร่างกาย ขณะกำลังจะลงจากรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ภายในลานจอดของห้างดังแห่งหนึ่งย่านบางนา เมื่อเย็นวันที่ 16 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยขณะเกิดเหตุ น.ส.นภาพร ผู้เสียหายได้พยายามบีบแตรขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ห้างไม่มีใครมาช่วย คิดว่าเป็นวัยรุ่นตีกัน ทำให้ผู้เสียหายต้องพยายามต่อสู้สุดชีวิต จนสุดท้ายคนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงได้หลบหนีไป
โดยหลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ และโพสต์กระทู้เตือนภัยการจอดรถในห้างลงในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างมากมาย ว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ของห้างจึงไม่มาเดินตรวจ เมื่อได้ยินเสียงแตรรถยนต์ที่ดังผิดปกติ หรือทำไมคดีจึงไม่คืบหน้าทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด
ล่าสุด วันนี้ (21 ตุลาคม 2557) พล.ต.ต. ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.อ. สง่า ธีรศรัณยานนท์ ผกก.สภ.บางแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้ว คือ นายสมพงษ์ แสงสนั่น อายุ 26 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวคาดน้ำตาล ทะเบียน 1 กท 9887 กรุงเทพมหานคร และเสื้อยืดคอกลมสีดำที่ผู้ต้องหาใส่ในวันเกิดเหตุ
จากการสอบปากคำนายสมพงษ์ ผู้ต้องหาในคดี ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.นภาพร ผู้เสียหายจริง เนื่องจากบันดาลโทสะ โดยนายสมพงษ์ เล่าว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 16 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุนั้น ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนบางนา-ตราด และจู่ ๆ ก็ได้มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตนจนล้มลง เป็นเหตุให้ตนได้รับบาดเจ็บ แต่ปรากฏว่า รถยนต์คู่กรณีได้ขับหลบหนีไป ทำให้ตนรู้สึกโกรธมาก
ต่อจากนั้น ในเวลา 18.00 น. ตนได้ขับรถจักรยานยนต์พาแฟนสาวมาส่งที่ห้างดังกล่าว ก็พบว่ารถยนต์คู่กรณีกำลังขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของห้าง จึงได้ตัดสินใจตรงเข้าไปทำร้ายเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว เนื่องจากไม่พอใจที่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตนจนล้มแล้วกลับไม่ยอมลงมาสอบถามอาการ
อย่างไรก็ดี นายสมพงษ์ ผู้ต้องหาในคดีก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เจ้าของรถยนต์ที่ถูกตนทำร้ายร่างกายนั้น จะใช่รถยนต์คันเดียวกันกับที่ก่อเหตุเฉี่ยวชนตนหรือไม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
