สั่งสอบวัดบรมธาตุเก็บเงิน 43 ล้านในกุฏิ ชี้อาจผิด พ.ร.บ.สงฆ์

วัดพระบรมธาตุ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          สั่งสอบวัดบรมธาตุเก็บเงิน 43 ล้านในกุฏิ ชี้อาจผิด พ.ร.บ.สงฆ์ ที่ระบุว่าวัดสามารถเก็บเงินบริจาคได้ไม่เกิน 3 พันบาท แต่ทั้งนี้ต้องดูที่เจตนาด้วย หากไม่มีเจตนาก็จะว่ากล่าวตักเตือน ส่วนผลวิจัย เผย ยอดบริจาควัดทั่วประเทศสูงถึงแสนล้านบาทเลยทีเดียว

          วันนี้ (24 ตุลาคม 2557) นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ วัดพระบรมธาตุ หรือ วัดหลวงพ่อทันใจ จังหวัดตาก เก็บเงินสดที่ประชาชนร่วมบริจาคกว่า 43 ล้านบาทไว้ที่วัดกว่า 10 ปี ว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ. 2505 ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า วัดสามารถเก็บเงินบริจาคได้ไม่เกิน 3,000 บาท และหากเกินยอดดังกล่าว ต้องฝากธนาคารในนามของวัด พร้อมจัดการเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค
 


         
         นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้สำนักพระพุทธศาสตร์จังหวัดตาก หารือกับเจ้าคณะจังหวัด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าอา วาสวัด ว่ามีเจตนาเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.สงฆ์ หรือไม่ที่เก็บเงินไว้ที่วัด และหากเข้าข่ายผิดจริง จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง แต่ถ้าหากไม่มีเจตนาก็จะว่ากล่าวตักเตือน

         ส่วนทางด้าน นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า เงินจำนวน 43 ล้านบาท ที่เก็บไว้นั้น เป็นเงินที่วัดได้จากผู้มีจิตศรัทธานำมาบริจาคนานกว่า 6 ปี ก่อนหน้านี้ได้นำไปฝากกับธนาคารแห่งหนึ่ง แต่เมื่อไปเบิกถอนเกิดความยุ่งยากล่าช้า จึงถอนออกมาเก็บไว้ที่วัดแทน โดยช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา นำเงินมานับไป 3 ครั้ง ได้เงิน 42 ล้านบาท ต่อมานับเงินได้อีก ราว 1.2 ล้านบาท รวมเหรียญอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลทรัพย์สินของวัดตอนนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกตัวบุคคล




         อย่างไรก็ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ได้ทำการสำรวจวัดจำนวน 490 แห่งในประเทศไทย พบว่า รายได้อันดับ 1 ของแต่ละวัดนั้นอยู่ที่เงินทำบุญของประชาชน การเช่าวัตถุมงคล การทอดกฐิน และการจัดกิจกรรมภายในวัด โดยแต่ละวัดจะมีรายได้ต่อปีประมาณ 3 ล้านบาท ส่วนเงินทำบุญของจำนวนวัดทั่วประเทศทั้งหมด 37,000 วัด พบว่ามีเงินทำบุญของประชาชน เฉลี่ยปีละกว่า 1 แสนล้านบาท

         และข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ เมื่อยอดเงินฝากของทางวัดมีจำนวนมาก บางวัดที่มีเกจิชื่อดัง ก็กลายเป็นเป้าหมายของธนาคารต่าง ๆ ที่ดึงให้ทางวัดเป็นลูกค้าประจำ มีการแข่งขันออกโปรโมชั่น ออกดอกเบี้ยในอัตราพิเศษด้วย อีกทั้งยังมีออฟชั่นดูแลสุขภาพเจ้าอาวาส  รวมไปถึงธนาคารต่าง ๆ มีการจับฉลาก เพื่อแย่งสิทธิ์ไปดูแลเงินฝากของวัดนั้นด้วย

         สำหรับที่วัดโสธรวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา คณะกรรมการวัด เผยว่า แต่ละวันจะมีผู้มาทำบุญเป็นจำนวน มาก โดยวันจันทร์-ศุกร์ มียอดบริจาคประมาณวันละ 2 แสนบาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ มียอดบริจาคประมาณวันละ 5 แสนบาท รวมเงินบริจาคต่อเดือนประมาณ  6 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายของวัดจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาทต่อเดือน โดยเงินบริจาคนี้จะอยู่ในการจัดการของเจ้าอาวาสและเถรสมาคม

         ส่วนที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก พบว่า วันปกติ จันทร์-ศุกร์ จะมีประชาชนมาบริจาคทั้งการเช่าวัตถุมงคล และทำบุญประมาณวันละ 2-3 แสนบาท วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท ส่วนวันหยุดเทศกาลจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 1-2 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่นำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสริมการศึกษาของพระภิกษุ สามเณร 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก