ตะลึง! พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่เขาพระอาตเฒ่า พังงา
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
ตะลึง! พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่เขาพระอาตเฒ่า จ.พังงา หลังคนแห่ขุดหาสมบัติ ตามลายแทงปริศนา
วันที่ 30 ตุลาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา ร่วมกับผู้แทนชุมชนบ้านหินร่ม หมู่ที่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เดินทางไปตรวจสอบแหล่งโบราณคดีเขาพระอาตเฒ่า ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งท่าเรือบ้านหินร่ม ประมาณ 1 กิโลเมตร
และจากการตรวจสอบแหล่งโบราณคดีเขาพระอาตเฒ่าของคณะนักโบราณคดี พบว่า มีทั้งซากหอยหอยแครง หอยแว่น หอยหลักควาย และหอยนางรม รวมถึงสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ที่ตายทับถมกันสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งบางส่วนได้เริ่มย่อยสลายกายเป็นแล้ว นอกจากนี้ยังพบซากกระดูกมนุษย์โบราณที่มีอายุเก่าแก่ แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ โดยกระดูกบางชิ้นที่พบเริ่มกลายเป็นหิน
ด้าน นายภานุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ นักโบราณคดีชำนาญการ เปิดเผยว่า กระดูกที่พบเป็นกระดูกมนุษย์ซึ่งมีอายุเก่าแก่มาก แต่ยังไม่สามารถอายุที่ชัดเจนได้ เนื่องจากยังต้องรอผลการตรวจสอบตัวอย่างกระดูกอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่ามีกระดูกมนุษย์บางส่วนกองอยู่ใต้หินที่ใช้เวลาก่อตัวหลายร้อยปี จึงใช้เป็นข้อบ่งชี้ได้ว่ากระดูกมนุษย์มีอายุเก่าแก่กว่าหินที่มากองทับถม
สำหรับชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่อยู่ในลักษณะแตกหักและกระจัดกระจายนั้น สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากการขุดคุ้ยขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์ในยุคหลัง ๆ ทำให้เชื่อว่าบริเวณเขาพระอาตเฒ่าน่าจะเป็นแหล่งอยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคโบราณ เพราะในบริเวณใกล้เคียงกันยังพบภาพเขียนสีโบราณ ลักษณะลายเส้น หรือสีที่ใช้เขียนเป็นยางไม้ผสมกับเลือดสัตว์บางชนิด มีลักษณะและอายุใกล้เคียงกับภาพเขียนสีที่พบที่เขาเขียนอ่าวพังงา และที่ถ้ำผีหัวโต จ.กระบี่ แต่ขนาดของภาพใหญ่กว่าที่เคยพบในแหล่งอื่น ๆ
ขณะที่ นายสายัญ หัสนีย์ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น เล่าว่า สำหรับบริเวณที่มีการค้นพบกระดูกมนุษย์โบราณนั้น เคยมีการบอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า บริเวณเขาพระอาตเฒ่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ตั้งแต่ครั้งโบราณ และที่ผ่านมา ก็เคยมีนักล่าสมบัติแอบขึ้นมาขุดค้นหาสมบัติและของมีค่าอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีลายแทงปริศนาระบุว่า "เข้าสามศอก ออกสามวา ใครได้มากินไม่หมด" ที่หลายคนตีความหมายว่าที่เขาพระอาตเฒ่าแห่งนี้ มีสมบัติล้ำค่าอยู่จำนวนมาก แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นหรือได้ร่องรอยเกี่ยวกับขุมทรัพย์แห่งนี้เลย
และเพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการขุดค้นหาสมบัติอีก ทางผู้นำท้องถิ่นและทางจังหวัดได้เตรียมพัฒนาเขาพระอาตเฒ่าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก