x close

พ่อปั่นจักรยานไกลลอนดอน-ปารีส รำลึกถึงลูกชายที่ล่วงลับ


พ่อปั่นจักรยานไกลลอนดอน-ปารีส

พ่อปั่นจักรยานไกลลอนดอน-ปารีส รำลึกถึงลูกชายที่ล่วงลับ

ฌอน

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก justgiving.com

          คุณพ่อผู้สูญเสียร่วมลงปั่นจักรยานทางไกลจากลอนดอนถึงปารีส ถึงทางจะไกล แต่ไม่ท้อ เห็นหน้าลูกชายคอยให้กำลังใจตลอดทาง ก้ามข้ามความเหนื่อยยากท้อแท้จนไปถึงเส้นชัย 

          ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเป็่นสิ่งที่ยากจะอธิบาย แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่สายใยบาง ๆ ที่สานขึ้นความรักและความผูกพันก็ยังคงเชื่อมต่อกันอยู่เสมอ และนี่คือสิ่งที่ทำให้นายมาร์ติน ไรซ์ วัย 45 ปี ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ หลังเขาต้องสูญเสียฌอน ลูกชายแท้ ๆ คนเดียวไปด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย เมื่อลูกอายุได้เพียง 20 ปีเท่านั้น 

          ตามรายงานจากเว็บไซต์เวลส์ออนไลน์ เผยว่า ฌอน หนุ่มนักศึกษาการถ่ายภาพดิจิตอล ผู้กำลังเริ่มทำหนังของตัวเอง ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลูคีเมียครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 โดยก่อนหน้านั้นฌอนมีอาการวิงเวียนเป็นลมอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยได้ตรวจจริง ๆ จัง ๆ เพราะว่ากลัวเข็ม จนกระทั่งอาการเริ่มผิดปกติมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล จึงได้ทราบว่าป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดฉับพลัน และอาการของมันเข้าขั้นรุนแรงแล้ว 

          หลังจากนั้นฌอนรับการรักษาตัวด้วยเคมีบำบัดต่อเนื่องที่โรงพยาบาลอยู่ร่วมเดือน ก่อนจะได้กลับมาพักที่บ้าน และยังคงไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านและโรงพยาบาลอยู่ ในบางครั้งฌอนมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง เริ่มเจ็บร้าวตั้งแต่ช่วงท้ายทอยลงไปจนถึงสันหลัง มาร์ตินบอกว่าในเวลานั้นฌอนร้องตะโกนอย่างทรมาน เขาอยู่กับลูกตลอดเวลาที่ลูกป่วยและรับรู้ความเจ็บปวดทุกอย่างแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แพทย์ได้ตรวจอย่างละเอียดเพิ่มเติม และพบว่ามะเร็งได้กระจายสู่สมองและไขสันหลังแล้ว ฌอนต้องรับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขสันหลัง แต่อย่างไรก็ดีอาการของลูกชายยังทรุดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายนปีถัดมา เขาก็กลับเข้าไปใช้ชีวิตในโรงพยาบาลอีกเนื่องจากภาวะปอดติดเชื้อ และเริ่มตรวจพบการทำงานล้มเหลวของอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายมากขึ้น จนในที่สุดฌอนก็จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ในวัยเพียง 20 ปี

          มาร์ตินเผยว่าการใช้ชีวิตหลังจากนั้นเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจ แม้ลูกชายจะบอกกับเขาเองว่าไม่เสียใจเลยที่ทราบว่าเป็นมะเร็งเมื่ออาการหนักแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นได้ใช้ชีวิตเต็มที่อย่างที่ตัวเองต้องการ ทุก ๆ วันผ่านไปอย่างยากลำบาก รวมทั้งวันครบรอบต่าง ๆ โดยเฉพาะวันพ่อ เพราะวันพ่อที่ผ่านพ้นในตอนนี้ เขาไม่มีลูกชายให้โอบกอดอีกต่อไปแล้ว 

          แต่ในที่สุดมาร์ตินก็ตัดสินใจเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นพลังเพื่อก้าวเดินต่อไป เขาเข้าร่วมปั่นจักรยานกับสถาบันวิจัยโรคมะเร็งเม็ดเลือด Leukaemia & Lymphoma Research โดยมีระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร จากกรุงลอนดอนของอังกฤษไปยังปารีส เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

          มาร์ตินพริ้นท์รูปของลูกชายแปะไว้ที่ด้านหลังเสื้อ เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาได้ระลึกลูกตลอดทาง คุณพ่อรายนี้เผยว่า เขาประมาทเรื่องระยะทางการปั่นขึ้นทางลาดชันมากไปหน่อย มันเหนื่อยและต้องใช้แรงกายมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ขาของเขายังปั่นต่อไปได้ก็คือความระลึกถึงที่มีต่อลูกชายผู้จากไป ตลอดจนแรงใจที่ได้รับจากภรรยาและลูกสาวบุญธรรมทั้ง 2 คนด้วย 

          ตลอดทางที่ได้ปั่นร่วมกับนักปั่นคนอื่น ๆ มาร์ตินได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงของโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว ทุกคนที่มาร่วมปั่นล้วนเคยเผชิญเรื่องเศร้าที่คล้ายคลึงกันนี้ การบอกเล่าให้กันฟังดูจะช่วยสร้างกำลังใจให้กันและกันได้ ช่วยให้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป เพราะแม้ไม่มีคนที่รักอยู่ข้างกาย แต่ความรักที่ยังมีให้ไม่เปลี่ยนแปลงจะช่วยเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นพลังเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า เหมือนอย่างสายสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อรายนี้กับลูกชาย ที่กลายเป็นกำลังใจและแรงผลักดันอย่างแรงกล้า ช่วยให้ฝ่าฟันอุปสรรคที่ยากลำบากลงได้สำเร็จ 


ฌอน



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พ่อปั่นจักรยานไกลลอนดอน-ปารีส รำลึกถึงลูกชายที่ล่วงลับ โพสต์เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา 05:31:01 2,960 อ่าน
TOP