x close

พระโอบ 2 แหม่มโดนสั่งย้ายกลับวัดบ้านเกิด เจ้าตัวสำนึกผิดอยากสึก


พระโอบ 2 แหม่มโดนสั่งย้ายกลับวัดบ้านเกิด
พระโอบ 2 แหม่มโดนสั่งย้ายกลับวัดบ้านเกิด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

            เจ้าคณะตำบลเกาะช้างเผย ให้พระโอบสองสีกาเดินทางกลับไปบ้านเกิดทันที พร้อมกำชับให้เจ้าอาวาสทุกวัดดูแลไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ชี้แค่อาบัติ สังฆาทิเสส ไม่สามารถให้สึกได้ ด้านเจ้าตัวสำนึกผิดอยากสึก

            จากกรณีที่มีการแชร์ภาพภาพพระภิกษุโอบกอด 2 สาวต่างชาติในโบสถ์วัดแห่งหนึ่ง จากเจ้าของเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "เก็บภาพวิพากษ์ เกาะช้าง" จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ล่าสุดพบว่าพระรูปดังกล่าวเป็นพระลูกวัดคลองพร้าว จ.ตราด แต่ขณะนี้เจ้าตัวไม่อยู่ เนื่องจากไปเข้าปริวาสกรรมที่นครสวรรค์

            เมื่อวานนี้ (23 พ.ย. 2557) นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกประจำสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพพระสงฆ์วัดคลองพร้าว อ.เกาะช้าง จ.ตราด กอดกับสีกาชาวต่างประเทศ ว่า ทางสำนักพุทธฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตราดในประเด็นดังกล่าวว่า พระสุพจน์ พระลูกวัดคลองพร้าว ที่ปรากฏในภาพ นั้นประพฤติผิดจริง โดยได้มีการแจ้งให้เจ้าอาวาสวัดคลองพร้าวทราบ ซึ่งทางพระสุพจน์เองก็ได้รับทราบความผิดที่เกิดขึ้น

            อย่างไรก็ตาม ความผิดดังกล่าวเป็นอาบัติสังฆาทิเสส หรือจับต้องกายหญิง พูดเกี้ยวหญิง แม้จะเป็นอาบัติหนัก แต่ไม่ถึงขั้นสึกหรือพ้นจากความเป็นสงฆ์ สามารถแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามพระวินัย โดยการอยู่กรรม หรืออยู่ปริวาสกรรม ซึ่งและในขณะนี้พระสุพจน์ได้เข้าอยู่ปริวาสกรรม แก้ไขตนเองเพื่อชำระศีลของตนเองให้บริสุทธิ์ โดยมีเจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว และพระสังฆาธิการผู้ปกครอง เป็นผู้ดูแลแก้ไขความผิดพลาดในเรื่องนี้แล้ว

พระโอบ 2 แหม่มโดนสั่งย้ายกลับวัดบ้านเกิด

            นายสมชายกล่าวต่อว่า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทางสำนักพุทธฯ มิได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานกับพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ในแต่ละจังหวัด เพื่อให้ช่วยกำชับกวดขันเรื่องความประพฤติของพระภิกษุในที่สาธารณะ มิให้เรื่องในกรณีนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งจะด้วยความตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม เนื่องจากเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อ และสร้างความเสียหายต่อวงการพระพุทธศาสนา

            ด้านพระครูสุเมธจริยาลังกา เจ้าอาวาสวัดคลองสน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ในฐานะเจ้าคณะตำบลเกาะช้าง กล่าวว่า ได้รับรู้เรื่องนี้มาแล้วหลายวันและได้เข้าไปแก้ปัญหาให้แล้ว โดยเดินทางไปพบเจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว และพระสุพจน์ด้วยตัวเอง และได้สอบถามเรื่องนี้ซึ่งพระสุพจน์ยอมรับ และได้ขอร้องให้เดินทางกลับไปบ้านเดิมของท่าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา โดยขณะนี้ ทางเจ้าคณะจังหวัดตราดได้สั่งการให้แก้ไขในเรื่องนี้ โดยกำชับให้พยายามแก้ภาพพจน์ของพระในเกาะช้าง เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและการที่พระสงฆ์ปฏิบัติผิดธรรมวินัยจะส่งผลทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม ซึ่งล่าสุดได้มีการแจ้งไปยังเจ้าอาวาสทั้ง 6 วัดในเกาะช้างได้ออกข้อบังคับควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก

            ส่วนนายนิติธร กาวิวัฒน์ ผู้ช่วยกำนัน ต.เกาะช้าง และกรรมการวัดคลองพร้าว กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อประมาณ 10 วันที่แล้ว ในระหว่างที่นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย 2 คน ไม่ทราบชื่อเดินทางเข้ามาที่วัด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเนื่องจากทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศจำนวนมาก เดินทางมาชมโบสถ์ที่สร้างใหม่ พร้อมกับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยนักท่องเที่ยวทั้งสองคนเดินก็ได้เข้ามาในโบสถ์เพื่อกราบไหว้พระ  ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พระสุพจน์นั่งรับสังฆทานอยู่ โดยนักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้ขอให้พระสุพจน์ ผูกสายสิญจ์ที่ข้อมือ และเมื่อผูกข้อมือเสร็จ จึงขอถ่ายรูป จากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเกิดภาพในลักษณะนี้

            นายนิติธร กล่าวอีกว่า ได้โทรศัพท์คุยกับพระสุพจน์เป็นการส่วนตัวแล้ว และท่านเองก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่รู้ว่าจะอธิบายในเรื่องนี้อย่างไรดี โดยขณะนี้ท่านอยู่ระหว่างการปริวาสกรรมของท่านเอง ซึ่งท่านรู้สึกผิดและอาจตัดสินใจสึก ทั้งที่ท่านบวชมานานถึง 23 พรรษาและจำวัดที่วัดคลองพร้าวมานานถึง 5 ปี ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นอาจส่งผลเสียต่อภาพพจน์ และอาจทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่วัดคลองพร้าวลดลง แต่เชื่อว่าจะกลับมาดีเหมือนเดิมได้เพราะทางวัดได้แก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้วอย่างดีที่สุด..




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พระโอบ 2 แหม่มโดนสั่งย้ายกลับวัดบ้านเกิด เจ้าตัวสำนึกผิดอยากสึก อัปเดตล่าสุด 24 พฤศจิกายน 2557 เวลา 12:49:17 35,904 อ่าน
TOP