x close

รถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ เปิดภาพกราฟิกจำลองเหตุการณ์ชัด ๆ


ข่าวรถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ
ข่าวรถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ

ข่าวรถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

            รถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี ขณะที่เรื่องเล่าเช้านี้ เปิดภาพกราฟิกจำลองเหตุการณ์รถคันเกิดเหตุชนรถเลกซัส ทำเสียหลักไปไกลกว่า 80 เมตร ก่อนร่วงอาคาร ด้านผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานอาจเกิดจากคันเร่งค้าง

            สืบเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ฮอนด้า ทะเบียน ศง 5323 กทม. ร่วงตกจากอาคารลานจอดรถชั้น 3A หรือเทียบเท่ากับชั้น 7 ของลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 เป็นเหตุให้ นางสาวสุภาภรณ์ เวียงนาค อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป จำกัด และตัวแทนบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต ซึ่งเป็นคนขับรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมกับตัดประเด็นการฆ่าตัวตายทิ้ง เนื่องจากญาติพี่น้องไม่ติดใจในเรื่องนี้ และสันนิษฐานเบื้องต้นว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะสภาพรถไม่สมบูรณ์ ซึ่งต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบต่อไป ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

            วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานความคืบหน้าของคดีที่เกิดขึ้น โดยได้ส่งผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในลานจอดรถ พบลานจอดรถมีทั้งหมด 8 ชั้น ทางลงลานจอดรถเป็นลักษณะวนลงเหมือนก้นหอย มี 2 เลน ขนาดค่อนข้างกว้าง ทางลงจะมาบรรจบกับทางตรงของแต่ละชั้น ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า รถของผู้ตายลงมาจากชั้น 3B (เทียบเท่ากับชั้น 8) ซึ่งเป็นชั้นบนสุด วิ่งอยู่ในเลนนอก ซึ่งจะต้องมาบรรจบกับรถทางตรงในชั้น 3A

            เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถของผู้ตายที่ขับวนลงมาจากชั้น 3B ได้มาชนเข้ากับด้านหน้าฝั่งขวาของรถเลกซัสที่วิ่งทางตรงมาในชั้น 3A ทำให้รถของผู้ตายแฉลบออกทางขวา และพุ่งเสียหลักวิ่งไปหากำแพงที่เป็นจุดเกิดเหตุ ห่างจากจุดที่ชนกับรถเลกซัส 80 เมตร ก่อนตกลงมาที่ด้านล่างของอาคาร

ข่าวรถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ

            อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตคือที่กำแพงมีรถจอดอยู่ 1 คัน ลักษณะเหมือนหักหลบรถคันดังกล่าว หรือไม่ก็เสียหลักไปอยู่แล้ว ทำให้รถของผู้ตายไม่ได้พุ่งชนกับรถที่ขวางอยู่ ซึ่งหากรถของผู้ตายไปชนเข้ากับรถที่จอดอยู่นั้นอาจจะรอดชีวิตก็เป็นได้ เพราะรถที่จอดอยู่อาจจะตกลงไปข้างล่างแทน ซึ่งในรถคันนั้นไม่มีคนนั่งอยู่

            นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบลานจอดรถชั้น 3A พบว่าไม่มีร่องรอยการเบรก มีเพียงรอยคราบน้ำมันลากยาวตามรอยล้อ ขณะที่รถเลกซัส หลังจากถูกชนก็แฉลบไปชนรถที่จอดอยู่อีก 2 คัน ทำให้ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามนับว่าโชคดีอยู่บ้างที่ด้านล่างของจุดที่รถตกลงมา ซึ่งเป็นจุดจอดรถรับ-ส่งสินค้า ไม่มีผู้คนอยู่แถวนั้นในช่วงที่เกิดเหตุ ทั้งที่ปกติจะมีคนอยู่พลุกพล่านเพราะเป็นท่าเรือโดยสาร จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

            ขณะที่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บรรดาญาติ ๆ ได้เดินทางมารับศพ นางสาวสุภาภรณ์ เวียงนาค ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางเพ็งใต้ โดยญาติพี่น้องยังคงทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

            ทั้งนี้ นางสาวแสงเดือน เวียงนาค น้องสาวผู้ตาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยังสงสัยว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ตอนแรกที่ทราบข่าวไม่เชื่อว่าเป็นพี่สาว เพราะพี่สาวทำงานอยู่ที่นี่ขับรถขึ้น-ลงลานจอดรถมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ปกติไม่เคยขับรถเร็ว ไม่เคยประมาท ไม่เคยคุยโทรศัพท์ในรถด้วยซ้ำ แต่กลับมาเกิดเหตุในลานจอดรถซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่น่าจะใช้ความเร็วได้ จึงแปลกใจ หลังเกิดเหตุตนได้ขึ้นมาดูจุดเกิดเหตุแล้ว มองดูแล้วคาดว่าพี่สาวคงจะตกใจ พยายามประคองรถไม่ให้ชนกับรถที่จอดอยู่ จึงเลือกที่จะหักหลบชนกำแพงหวังให้รถหยุด แต่รถกลับทะลุกำแพงตกลงมา ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากรถขัดข้องหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมารถคันนี้ไม่เคยมีปัญหา ใช้มา 6 ปีแล้ว เพิ่งไปถ่ายน้ำมันเครื่องมา เหตุการณ์ที่ขึ้นทำให้สามีของพี่สาว รวมทั้งลูกสาวอายุ 9 ขวบ กับ 6 ขวบ ยังทำใจไม่ได้

            ขณะที่ผู้สื่อข่าวยังได้ไปสอบถาม นายปรีดา ตันเต็มทรัพย์ ประธานฝ่ายเทคนิคราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายปรีดาระบุว่า ดูจากเหตุการณ์แล้วคาดว่าน่าจะเกิดจากคันเร่งค้างมาตั้งแต่ช่วงที่ขับลงมาจากลานจอดรถ เพราะรถคันที่เกิดเหตุไปชนกับรถเลกซัส ถึงขนาดทำให้รถเลกซัสได้รับความเสียหายมากทั้งที่เป็นรถที่ใช้วัสดุค่อนข้างแข็งแรง แสดงว่าการชนค่อนข้างหนัก และแสดงว่ารถคันเกิดเหตุใช้ความเร็วมาก จึงคิดว่าคันเร่งน่าจะค้างมาตั้งแต่ตอนนี้

            นายปรีดา สันนิษฐานต่อว่า ปกติเวลาที่รถชนกันแล้วจะมีความเร็วลดลง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับพบว่ารถคันเกิดเหตุยังวิ่งต่อไปอีกถึง 80 เมตร ก่อนชนกำแพงแล้วร่วงตกจากอาคาร แสดงว่าต้องมีการเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจากประสบการณ์ที่ตนเคยพบมา ถ้ารถวิ่งไปได้ไกล 80-100 เมตร เพราะคันเร่งค้าง รถคันนั้นจะสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วถึง 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกอบกับผู้ตายเลือกพุ่งชนกำแพงที่ก่อปูนขึ้นมา ทำให้กำแพงแตกทะลุ จนรถร่วงลงมา

            ทั้งนี้ นายปรีดา ยังให้ข้อมูลด้วยว่า ในกรณีถ้าเป็นคันเร่งค้างจริง ๆ ส่วนใหญ่มักเกิดจากตัวผู้ขับรถเองที่ตกใจเวลาเจอรถโผล่มาข้างหน้ากะทันหัน อาจจะไปเหยียบคันเร่งแทนเบรก อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ผู้หญิงหลายคนใส่รองเท้าส้นสูงขับรถ อาจทำให้ส้นรองเท้าไปขัดกับคันเร่ง กว่าจะถอนจากคันเร่งมาเหยียบเบรกก็ไม่ทันแล้ว ส่วนประเด็นที่สามอาจเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง ทั้งนี้ถ้ารถเกิดคันเร่งค้างขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม จะทำให้แป้นเบรกของรถแข็งขึ้น จนรู้สึกเหมือนเบรกไม่ลง ซึ่งจริง ๆ สามารถเบรกได้ แต่ต้องออกแรงให้มากขึ้น

            สำหรับวิธีการแก้ไขสถานการณ์ นายปรีดา แนะนำว่า เมื่อเกิดคันเร่งค้างขึ้นต้องตั้งสติก่อนแล้วใส่เกียร์ว่างทันที จะทำให้รถไม่เร่งความเร็ว หลังจากนั้นให้เหยียบเบรกแรง ๆ แม้จะไม่รู้สึกเหมือนว่าเบรกก็ต้องเหยียบเบรกไว้ จนรู้สึกว่ารถชะลอตัว แต่ในกรณีที่เบรกไม่ทันให้รีบประคองรถเข้าไปหาจุดที่คิดว่าแข็งแรงที่สุดเป็นจุดเบรกรถ ถ้าในกรณีเป็นลานจอดรถ จุดที่แข็งแรงที่สุดคือเสา อย่าพุ่งไปที่ผนังหรือกำแพง ต้องพยายามหาทางประคับประคองรถ เอาฝั่งที่ไม่มีคนนั่งชนกับเสา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

            ทั้งนี้สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดคือ การดับเครื่องยนต์ เพราะถ้าดับเครื่องยนต์จะทำให้พวงมาลัยล็อก และเราจะไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรนำสิ่งของอะไรไปไว้ใต้เบาะ เช่น ขวดน้ำ รองเท้า เพราะอาจไปขัดคันเร่งได้

            ขณะที่ นายสุรชัย ศิริสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ แสดงความเห็นว่า อุบัติเหตุครั้งนี้อาจเกิดจากระบบเบรก ทั้งเบรกจมที่ทำให้ห้ามล้อไม่ได้ หรือไม่ก็หม้อเบรกมีปัญหา ทำให้เบรกแข็งเกินไป









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รถตกเดอะมอลล์ บางกะปิ เปิดภาพกราฟิกจำลองเหตุการณ์ชัด ๆ อัปเดตล่าสุด 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 11:28:24 133,348 อ่าน
TOP