สิงห์บุรี
ถิ่นคนกล้า ย่านการค้า พระพุทธรูปงามตา
เหตุที่จังหวัดสิงห์บุรีได้ชื่อว่าเป็นถิ่นวีรชนนั้น
เนื่องด้วยความกล้าหาญของชาวบ้านบางระจัน เมื่อครั้งที่พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระบรมราชาที่3 ในครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันสามารถยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพพม่าได้นานถึง 5 เดือน โดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกรุงศรีอยุธยาเลย ถึงแม้ว่าการรบครั้งนั้น
ชาวบ้านบางระจันจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
แต่วีรกรรมอันสุดแสนกล้าหาญของชาวบ้านบางระจันในครั้งนั้น ยังคงเป็นที่จดจำ
และประทับใจลูกหลานชาวสิงห์บุรีตลอดมา จนเกิดเป็นอำเภอบางระจัน
ขึ้นในจังหวัดสิงห์บุรี รวมถึงยังมีการตั้งชื่อถนนต่างๆ ในจังหวัดตามชื่อของวีรชนบ้านบางระจันเพื่อเชิดชูความกล้าหาญอีก
เช่น ถนนนายแท่น ถนนนายดอก ถนนนายอิน เป็นต้น
นอกจากเรื่องราวความกล้าหาญของวีรชนคนรุ่นก่อนแล้ว
จังหวัดสิงห์บุรียังนับเป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางพุทธศานา
วิถีชีวิตท้องถิ่นล้วนถูกเชื่อมโยง และล้อมรอบไปด้วยวิหาร ปูชนียสถาน
และวัดวาอารามที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารที่ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์แบบสุโขทัยขนาดใหญ่
ที่มีความงดงามมาก วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์ ที่โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปทองคำ
พุทธศิลป์สมัยสุโขทัยปางมารวิชัย ที่งดงามความอ่อนช้อยอิ่มเอิบ
บ่งบอกถึงความสมบูรณ์พูนสุขแห่งยุคสมัย วัดประโชติการราม ศักดิ์สิมธิ์ด้วยหลวงพ่อทรัพย์-หลวงพ่อสิน พระยืนศักดิ์สิทธิ์ ที่มีตำนานเล่าขานว่าหากเมืองใดมีพระยืนประดิษฐานอยู่
เมืองนั้นจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนมีความสุข และวัดพิกุลทอง วัดของหลวงพ่อแพร
พระนักสร้างแห่งจังหวัดสิงห์บุรี ที่ชาวเมืองให้ความเคารพ
เพื่อสักการะพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือพระพุทธรูปนั่ง
ปางพระทานพรองค์ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
ทางด้านเกษตรกรรม สิงห์บุรีก็นับเป็นจังหวัดที่ไม่น้อยหน้าใคร จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ ด้วยว่าตั้งอยู่ในเขตที่ราบลุ่มภาคกลาง ภาพของผืนนาสีทองยามออกรวงสุกปลั่ง และวิถีชีวิตริมน้ำจึงเป็นภาพอันคุ้นตาหาชมได้ไม่ยาก โดยเฉพาะกับเรื่องปลาน้ำจืด ที่ต้องนับว่าสิงห์บุรีโดดเด่นในเรื่องนี้ จนมีการนำมาดัดแปลงเป็นอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เค้กปลาช่อน ที่โด่งดังไปทั่วประเทศ
กวนเชียงปลา จากปลาจันทร์ และปลากราย และปลาช่อนแดดเดียวที่ใครมาสิงห์บุรีเป็นต้องซื้อติดมือกลับบ้าน และสำหรับใครที่เป็นนักกินปลาตัวยง ก็ไม่ควรพลาดเทศกาลกินปลา งานใหญ่ประจำจังหวัด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ถึง4 มกราคม 2558 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรี โดยงานมักจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ไปจนถึงมกราคม แต่หากใครมาไม่ตรงช่วงเวลางาน การแวะเที่ยวตลาดก็นับเป็นอีกความคิดที่ดีในการชมวิถีชีวิตชาวเมือง และเลือกซื้อของฝากกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดเทศบาล ตลาดบ้านแป้ง ตลาดปากบาง หรือตลาดพรหมบุรี
อ่านกันมายาวขนาดนี้ จะบอกว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเสน่ห์แห่งสิงห์บุรีที่อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัส ถ้าหากมีเวลา และได้ลองเข้าไปทำความรู้จัก คุณจะรู้ว่าถิ่นวีรชนคนกล้าแห่งนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายรอต้อนรับ