คลิปเด็กร้องไห้หายายหน้าห้องขัง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)
คลิปยายชาวลาวถูกจับกุม ปลอบหลานนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องขัง ชาวเน็ตแชร์พร้อมวิจารณ์การทำงานของตำรวจ ก่อนตำรวจแฉกลับ คนถ่ายคลิปแชร์คือพ่อเด็กที่มาด้วย อ้างรู้จักนักการเมืองดัง หวังบีบให้ปล่อยตัวแม่ยายที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าเมือง วอนประชาชนเข้าใจ ทำตามหน้าที่
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 แฟนเพจ YouLike (คลิปเด็ด) ได้แชร์คลิป "ชาวลาวถูกจับ..ขากลับจากพาหลานไปหาพ่อที่ กทม. (28/11/57)" ซึ่งเป็นคลิปจากผู้ใช้ชื่อว่า "จารย์ครูหมาน คนไค" ระบุข้อความว่า "...พี่น้องชาวลาวเฮาเอ้ย อย่าผ่านมาทางอำเภอปทุมราชวงศาเด้อครับ ไผจะกลับลาวให้ไปทางอื่นเด้อ เบิ่งเอาครับผู้กำกับมันเฮ็ดกับคนลาวแบบบ่มีเมตตาเลย ช่วยแชร์ด้วยครับ..." ก่อนที่คลิปนี้จะถูกแชร์ออกไป โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างรู้สึกหดหู่กับภาพที่เห็น ที่เด็กน้อยต้องนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องขัง โดยมียายที่อยู่ในห้องขังคอยปลอบ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีคลิปเผยแพร่ออกไป ล่าสุดวันนี้ (29 พฤศจิกายน 2557) ร.ต.อ. เอกพล นาพิมาย ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ชี้แจงถึงคลิปที่เห็นแล้ว โดยระบุว่า ผู้ถ่ายคลิปก็คือลูกเขยของหญิงชาวลาวในภาพ ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "จารย์ครูหมาน คนไค" พร้อมเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ตรวจค้นรถทัวร์ สายกรุงเทพเขมราฐ พบนางพู พมลี อายุ 55 ปี ชาวลาว นั่งอยู่บนรถ และไม่มีเอกสารหรือหนังสือการเดินทางเข้าออกประเทศ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาดำเนินคดี ในความผิดเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็มีลูกเขยและลูกสาวของ นางพู อุ้มลูกน้อย ตามมาที่โรงพักด้วย
ทั้งนี้เมื่อผู้เป็นลูกเขยขึ้นมาบนโรงพักก็อ้างตัวว่าเป็นคนสนิทของ อดีต ส.ส.ชื่อดังคนหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี และยังพูดจากดดันเจ้าหน้าที่ ขอให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวแม่ยายชาวลาว แต่เจ้าหน้าที่ไม่สนใจ ควบคุมตัวหญิงชาวลาวส่งดำเนินคดีทันที ส่วนหลานชายที่มาด้วยกันก็ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะอยากเข้าไปหายายในห้องขัง เจ้าหน้าที่จึงต้องนำเก้าอี้มาวางไว้ให้หลานชายนั่งอยู่หน้าห้องขัง โดยยายได้พยายามปลอบหลานให้หยุดร้อง
ภายหลัง ลูกเขยได้ใช้แท็บเล็ตถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ แล้วนำมาโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต โดยใช้ชื่อ "จารย์ครูหมาน คนไค" อีกทั้งยังโพสต์ข้อความที่ทำให้คนเข้าใจผิด ทั้งที่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ตำรวจกระทำตามหน้าที่ ตั้งแต่การจับกุม จนถึงควบคุมตัวไปส่งฟ้องศาล ซึ่งศาลได้พิพากษาให้ปรับเงิน 4,000 บาท โดยลูกเขยและลูกสาวเป็นคนเสียค่าปรับให้ ก่อนจะนำตัวมาส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อผลักดันกลับประเทศลาวต่อไป ดังนั้นจึงอยากบอกให้ทุกฝ่ายได้รับทราบข้อเท็จจริง ว่าตำรวจทำงานตามกระบวนการทุกขั้นตอน สามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า นางพู เป็นชาวลาว แต่ได้แต่งงานกับชายชาวไทย จึงอยู่เมืองไทยมานานหลายปีแล้ว และลูกทุกคนก็มีสัญชาติไทย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
