x close

ศาลไต่สวนคดีสงกรานต์เลือด 2553 พบนักข่าวญี่ปุ่น ถูกยิงจากฝั่ง จนท.

ศาลไต่สวนคดีสงกรานต์เลือด 2553 พบนักข่าวญี่ปุ่น ถูกยิงจากฝั่ง จนท.
ศาลไต่สวนคดีสงกรานต์เลือด 2553 พบนักข่าวญี่ปุ่น ถูกยิงจากฝั่ง จนท.

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

            ศาลนัดไต่สวนคดีสลายการชุมนุม ปี 2553 ที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา โดยตำรวจขึ้นเบิกความ เผย จากการสืบสวนเทป และวิถีกระสุน พบ นักข่าวญี่ปุ่น และ นปช. ที่เสียชีวิต ถูกยิงมาจากฝั่งของเจ้าหน้าที่

            เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีการนัดไต่สวนคดีที่พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องให้มีการชันสูตรพลิกศพ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ผู้ตายที่ 1, นายวสันต์ ภู่ทอง ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ตายที่ 2, และนายทศชัย เมฆงามฟ้า ผู้ชุมนุม นปช. ผู้ตายที่ 3 ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553

            ทั้งนี้  พล.ต.ต. วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการกองโยธาธิการ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบบริหารงานสืบสวนคดี ได้เบิกความว่า จากการสอบสวน นายไพบูลย์ น้อยเพ็ง ผู้ชุมนุม นปช. ที่ได้มอบคลิปวิดีโอของนายฮิโรยูกิ ขณะที่ทำข่าวหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา มาให้ตรวจสอบ พบว่าขณะนั้นยังไม่มีผู้ชุมนุมเข้ามาในบริเวณดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ และนายฮิโรยูกิยังได้เข้าไปบันทึกภาพของเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฐมพยาบาลไว้ด้วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะถอยร่นเข้าไปบริเวณสะพานวันชาติ

 
           โดยจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งหมดยืนยันว่า มีการขอคืนพื้นที่ตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก ไม่มีการใช้อาวุธหนักหรือกระสุนปืนจริง และจากการสอบถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และ ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ทั้งสองคนได้มอบหลักฐานที่เชื่อว่า น่าจะมีกลุ่มติดอาวุธปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม จนส่งผลให้มีคนถึงแก่ความตาย 3 คน ขณะที่ พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตโฆษก ศอฉ. ยังได้มอบซีดีที่บันทึกภาพเหตุการณ์ช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553 ที่มีการจับกุมชายชุดดำอีกด้วย

            จากการสอบสวนพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่าย พบว่า ซีดีไม่ได้ตัดต่อตามลำดับเหตุการณ์จริง ยกเว้นแผ่นซีดีของนายฮิโรยูกิ ที่เรียงลำดับตามเวลาที่นายฮิโรยูกิเข้าไปทำข่าว มีความยาวประมาณ 5.57 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 15.20 น. เป็นภาพของผู้ชุมนุมรวมตัวกัน แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด ต่อมาเป็นเวลา 19.29 น. เป็นภาพเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณแยกวิสุทธิกษัตริย์ และเวลา 19.48 น. เป็นภาพที่ผู้ชุมนุมกำลังแกะตัวหนอนบนทางเท้า

            พล.ต.ต. วัลลภ เบิกความต่อว่า เมื่อถึงเวลา 20.44 น. ก็เห็นภาพหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ที่มีรถสายพานลำเลียงพลจอดอยู่ และ พ.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม ก็นั่งอยู่ในรถดังกล่าว และเวลา 20.45 น. ก็มีภาพเจ้าหน้าที่ยิงปืนขึ้นฟ้า แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น เวลา 20.46 น. ก็มีภาพเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา แต่ควันกลับลอยใส่เจ้าหน้าที่เอง ตามมาด้วยเวลา 20.48 น. ก็มีเสียงระเบิดครั้งแรก อีก 5 วินาทีต่อมา ก็เกิดเสียงระเบิดครั้งที่ 2 และมีภาพเจ้าหน้าที่ลำเลียงคนเจ็บออกมา
 
            จากนั้นเวลา 20.51 น. เกิดเสียงปืนดังขึ้นนัดแรก เวลา 20.52 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามายืนดูเจ้าหน้าที่ และมีเสียงปืนดังขึ้นนัดที่ 2 และมีภาพเจ้าหน้าที่ทหารนอนเจ็บ และมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนถือไม้ตามเข้าไป เวลา 20.53 น. เสียงปืนดังขึ้นเป็นนัดที่ 3 และดังต่อเนื่องจนเป็นเสียงรัว ส่วนเวลา 20.54 น. ก็เป็นภาพของกลุ่มผู้ชุมนุม กำลังขว้างก้อนหินจาก  ร.ร.สตรีวิทยา ฝั่งตรงข้ามร้านอาภรณ์พาณิชย์ ไปใส่เจ้าหน้าที่

            จากภาพวิดีโอดังกล่าว สรุปได้ว่า นายฮิโรยูกิ เสียชีวิตบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เวลาประมาณ 21.00 น. จากกระสุนปืนแรงสูงบริเวณหน้าอก ส่วนนายวสันต์และนายทศชัย เสียชีวิตด้วยกระสุนปืนแรงสูงบริเวณเดียวกัน อันตรงกับผลดีเอ็นเอคราบโลหิตบริเวณดังกล่าว

            จากนั้น จึงมีการรวบรวมพยาน เพื่อหาว่า อาวุธปืนและลูกกระสุนที่ยิงใส่ทั้ง 3 คนนั้น มาจากทิศใด ทางกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรายงานการตรวจร่องรอยวิถีกระสุนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รายงานตรงกันว่า พบร่องรอยกระสุนทั้งสิ้น 114 รอย บอกทิศทางได้ 108 รอย อันเป็นวิถีกระสุนปืนตามแนว ถ.ดินสอ มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพียงด้านเดียว ซึ่งเมื่อประกอบกับคำให้การของพยานบุคคล 8 คนที่ให้การว่า ได้ยินเสียงปืนและแสงไฟจากด้านสะพานวันชาติ และจากการตรวจสอบพยาน 3 ปากที่อยู่ใกล้ชิดกับนายฮิโรยูกิ จึงมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
 
            ส่วนแผ่นซีดีที่นายอภิสิทธิ์ มอบให้พนักงานสอบสวนนั้น เป็นเพียงแผนจำลองประกอบคำบรรยาย ไม่มีเหตุการณ์จริง และไม่ตรงกับคลิปวิดีโอที่ผู้ตายบันทึกไว้ อีกทั้งในคลิปวิดีโอของนายอภิสิทธิ์ ยังมีภาพเหตุการณ์ระเบิด พร้อมระบุว่ามีชายชุดดำและเกิดเหตุระเบิด 3 ครั้ง ขณะเดียวกันก็มีการสอดแทรกภาพนิ่งลงไปในคลิป และบรรยายว่า มีอาวุธปืนเอ็ม 16 อาก้า และระเบิดเอ็ม 79 แต่คลิปวิดีโอของนายฮิโรยูกิ มีเพียงระเบิด 2 ครั้ง และไม่มีชายชุดดำ

            นอกจากนี้ ยังมีภาพของชายคลุมหัวที่ให้สัมภาษณ์ว่า มีระเบิดลง 2 ลูก แต่ไม่ทราบชื่อ และไม่ทราบบริเวณที่ให้สัมภาษณ์  อีกทั้งยังไม่สามารถนำตัวคนสัมภาษณ์มาให้ปากคำได้ และคลิปของนายอภิสิทธิ์นั้น ก็ไม่ได้อยู่บริเวณถนนดินสอ จึงไม่สามารถนำซีดีดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาได้ เพราะไม่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ และจากการชันสูตรบาดแผลของ พ.อ. ร่มเกล้า และเจ้าหน้าที่ทหาร รวม 5 คน ระบุว่า แต่ละคนเสียชีวิตจากการถูกระเบิด ไม่ใช่อาวุธปืนที่ยิงจากหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา


            ทั้งนี้ จากคลิปและพยานที่เบิกความมา สรุปได้ว่า ไม่มีหลักฐานใดที่จะชี้ชัดว่า มีการยิงจากฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณ ถ.ดินสอ ที่มีความกว้างเพียง 9 เมตร และแพทย์ยังลงความเห็นว่า ผู้เสียชีวิตที่ 1-3 เสียชีวิตจากกระสุนปืนแรงสูง และร่องรอยการยิงมาจากทางสะพานวันชาติ และทหารก็ยอมรับว่า ได้ครองพื้นที่ปฏิบัติการยุทธวิธีตั้งแต่บริเวณสะพานวันชาติถึงหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เช่นนี้ คณะพนักงานสอบสวน จึงลงมติว่า กระสุนปืนที่ยิงถูกผู้ตายทั้ง 3 คน มาจากด้านสะพานวันชาติ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า ใครคือผู้ยิง

            นอกจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนจึงลงความเห็นว่า นายฮิโรยูกิ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เวลา 21.00 น. หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ส่วนนายวสันต์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ก่อนที่นายฮิโรยูกิจะถูกยิงเล็กน้อย และ นายทศชัย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 หลังจากที่นายฮิโรยูกิถูกยิง และเป็นการถูกยิงด้วยกระสุนปืนจากฝั่งสะพานวันชาติ

            จากนั้น ทนายของพยาน จึงให้ดูภาพที่เกิดเหตุ ที่นายสุเทพมอบให้พนักงานสอบสวน ที่เชื่อว่าเป็นรถตู้ที่มีชายชุดดำอยู่ในบริเวณแยกสี่กั๊กพระยาศรี ถ.เจริญกรุง ในเวลา 21.01 น. อันเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่นายฮิโรยูกิเสียชีวิต และถามว่า จากจุดดังกล่าว ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณเท่าไร กว่าจะถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งบริเวณนั้น ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร อาจต้องใช้เวลา 30 นาที เพราะมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการขับอ้อม และจากการสอบปากคำเจ้าของบ้านในที่เกิดเหตุ เบิกความว่า เจ้าของบ้านไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ได้ยินเสียงปืนเวลา 19.00 น. และเสียงระเบิด แต่ไม่มีใครหรือมีผู้ชุมนุมเข้าไปในบ้าน วันรุ่งขึ้น พบโลหะโค้ง 2 อันตกที่พื้นหน้าบ้าน และมีเจ้าหน้าที่ 3-4 คนเข้ามาตรวจสอบและขอไป คาดว่าน่าจะเป็นกระเดื่องระเบิดนิรภัย

            ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลได้นัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคม และ 26 ธันวาคม เวลา 09.00 น. และอัยการจะนำนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นเบิกความต่อไป




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

  










เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาลไต่สวนคดีสงกรานต์เลือด 2553 พบนักข่าวญี่ปุ่น ถูกยิงจากฝั่ง จนท. โพสต์เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 12:14:42 16,287 อ่าน
TOP