สปท. เสนอ 10 แนวทางปฏิรูประบบตำรวจไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) เสนอแนวทางปฏิรูประบบตำรวจไทย 10 ข้อ หวังกู้วิกฤตวงการตำรวจ ฟื้นศรัทธา-ความเชื่อมั่น จากประชาชน
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) ออกแถลงการณ์ พลิกวิกฤตสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นโอกาสสู่การปฏิรูปครั้งใหญ่ เสนอแนวทางปฏิรูปตำรวจ 10 แนวทาง หลังคดีขบวนการเรียกรับส่วยและสินบนในวงการตำรวจไทยที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ในขณะนี้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตำรวจครั้งร้ายแรงที่สุดและทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า คดีขบวนการรับส่วยและสินบนในวงการตำรวจ ที่ผู้กระทำผิดมีตั้งแต่นายตำรวจยศนายพล ผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายหน่วยงานใน สตช. ไปจนถึงตำรวจชั้นประทวนรวมหลายสิบนาย ได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อวงการตำรวจไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาองค์กรตำรวจผู้ดูแลความสงบยุติธรรมของบ้านเมือง จนกล่าวได้ว่าองค์กรตำรวจไทยกำลังก้าวสู่ยุควิกฤตอย่างแท้จริง
ดังนั้น สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) จึงเห็นควรให้ทุกภาคส่วนทั้ง คสช.รัฐบาล สนช.และ สปช. ได้ร่วมมือกันปฏิรูปวงการตำรวจครั้งใหญ่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา โดยเสนอแนวทางปฏิรูป 10 แนวทางดังนี้
1. ลดและเลิกความเป็นกองทัพ หรือให้ตำรวจเป็นเหล่าทัพที่ 4 เพราะข้อผิดพลาดที่ผ่านมามีความพยายามทำให้ตำรวจเป็นเหล่าทัพที่ 4 ต่อจากกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ ทำให้เกิดการรวมศูนย์การบังคับบัญชาจนการปฏิบัติหน้าของตำรวจถูกเบี่ยงเบนไปจากภารกิจที่ควรจะเป็น
2. ยกเลิกการผูกขาดรวมศูนย์ที่ส่วนกลางและการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ควรแยกกองบัญชาการตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกจากส่วนกลาง เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อพื้นที่นั้น ๆ และให้มีความเป็นนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการลดสายการบังคับบัญชาให้สั้นลง
3. ป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยยกเลิก กตช.ที่มาจากฝ่ายการเมืองเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารงานตำรวจ เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายตำรวจ ทั้งในระดับชาติ ระดับภาค ระดับจังหวัด และระดับสถานีตำรวจ โดยมาจากภาคประชาสังคม ตำรวจ อัยการ นักวิชาการ สื่อมวลชน เป็นต้น
4. แยกงานสืบสวนออกจากงานสอบสวน เพราะการทำงานของตำรวจทั้งนำสืบจับเอง และสอบสวนเองอาจทำให้ผู้ต้องสงสัยถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือปั้นพยานเท็จเพื่อบิดเบือนรูปคดี กลั่นแกล้งผู้บริสุทธิ์และเปิดช่องให้มีการเลือกปฏิบัติได้ง่าย
5. ยกเลิกตำรวจในตำแหน่งที่มีหน่วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่แล้ว อาทิ ตำรวจที่ดิน กรมที่ดิน ก็สามารถทำแทนได้ ตำรวจรถไฟ ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจป่าไม้ เป็นต้น เพื่อเพิ่มกำลังในงานที่สำคัญ และไม่เป็นการให้สำนักงานตำรวจใหญ่โตและมีอำนาจครอบจักรวาล
6. ปรับปรุงการได้มาของตำรวจ โดยควรพัฒนากระบวนการสรรหา การผลิตและพัฒนาบุคลากรตำรวจ เสนอให้ปรับเปลี่ยนฐานะโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นสถาบันการศึกษาวิชาการตำรวจ เน้นหลักสูตรตำรวจสมัยใหม่ และเพิ่มคุณวุฒินักเรียนพลตำรวจ
7. จัดตั้งองค์กรและกลไกอิสระที่ไม่ขึ้นอยู่กับสำนักงานตำรวจฯ เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์และติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในทุกระดับ และให้องค์กรนี้มีอำนาจวินิจฉัยในบางระดับและมีผลผูกพันทางกฎหมายต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
8. เพิ่มบทบาทและให้ความสำคัญกับการผลิตตำรวจชั้นประทวน อย่างน้อยต้องเทียบเท่าระดับอนุปริญญาปลูกจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่อย่างผู้รักษากฎหมาย และให้ลดงานที่ไม่จำเป็นออก เช่น การรับแจ้งบัตรประชาชนหาย หรือการทำคลอด
9. ปรับปรุงการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจและโรงพัก โดยโอนภารกิจรองให้หน่วยงานอื่น, เน้นการดำเนินการเชิงป้องกันอาชญากรรม และแบ่งขนาดสถานีตำรวจใหม่ และจัดรูปแบบงานในโรงพักเป็นแบบ จุดเดียวเบ็ดเสร็จ หรือ one-stop service
10. ปรับปรุงเงินเดือน ค่าตอบแทน และสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ เสนอให้แยกบัญชีเงินเดือนของข้าราชการตำรวจออกจากบัญชีเงินเดือนข้าราชการพลเรือนทั่วไป เพื่อให้มีระดับเงินเดือน ค่าตอบแทนเทียบเท่ากับบุคลากรของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม และมีความเหมาะสมกับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมถึงสภาพเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน
ทั้งนี้สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิกฤตครั้งใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่สังคมไทยที่อยู่ในกระแสและบรรยากาศของการปฏิรูปประเทศจะได้ร่วมกันปรับปรุงปฏิรูปองค์กรตำรวจให้เป็นหน่วยงานที่สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก