x close

ดราม่าสุดขีด เมื่อลูกคิดว่าพ่อแม่เป็นตัวถ่วง เกาะลูกกิน แช่งเมื่อไรจะตาย..


ดราม่าสุดขีด เมื่อลูกคิดว่าพ่อแม่เป็นตัวถ่วง
ดราม่าสุดขีด เมื่อลูกคิดว่าพ่อแม่เป็นตัวถ่วง

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            ดราม่าสุดขีด ! เมื่อลูกคิดว่าพ่อแม่เป็นตัวถ่วง เกาะลูกกิน แช่งเมื่อไรจะตาย.. บอกไม่อยากเกิดมาเป็นลูกแม่ ชีวิตทุกวันนี้ไม่มีความสุข มีแต่หนี้ ๆ ภาระหลายอย่าง ชาวเน็ตสับเละ วิจารณ์แหลก บ้างเห็นใจ แต่การแช่งให้ตายนี่อกตัญญูเกิน

            กลายเป็นเรื่องราวร้อนแรงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในขณะนี้.. เมื่อหญิงคนหนึ่งได้ตั้งกระทู้ว่า เธอนั้นรู้สึกว่าพ่อแม่ของเธอเป็นตัวถ่วงชีวิต เพราะตั้งแต่เด็กเธอต้องอยู่อย่างยากลำบากแสนสาหัส อดมื้อกินมื้อ ไม่มีเงินไปโรงเรียน ชุดนักเรียนมีแค่ชุดเดียว ต้องซักเวียนใส่กันไป พอเธอเรียนจบกลับไม่ได้ใช้เงินอย่างที่ใจคิด เพราะต้องทำงานหาเงินมาให้แม่ แล้วยังแบ่งอีกส่วนใช้หนี้ของแม่ พาลให้เกิดความคิดว่าไม่อยากเกิดเป็นลูกของแม่ ทำไมไม่ตาย ๆ ไปสักที..

            งานนี้ชาวเน็ตอ่านแล้วน้ำตาแทบร่วง สงสารคนเป็นพ่อเป็นแม่จับใจเลยทีเดียว ขณะที่บางคนก็บอกว่า เห็นใจที่เธอมีภาระมากมายขนาดนี้ แต่การแช่งให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ตายนั้น เป็นความคิดที่..อกตัญญูที่สุด

            สำหรับกระทู้ดังกล่าว มีชื่อว่า "เรารู้สึกว่า การมีพ่อแม่เป็นตัวถ่วงของชีวิตเราค่ะ"  โพสต์โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 1896658  เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2557 มีข้อความดังนี้

            "เรารู้สึกว่า การมีพ่อแม่เป็นตัวถ่วงของชีวิตเราค่ะ
 
            ก่อนอื่นเลยเราขอเล่าอดีตเกี่ยวกับเราให้ฟังก่อน เผื่อจะทำให้เข้าใจเรามากขึ้น เมื่อก่อนเราเป็นเด็กบ้านนอก อยู่ต่างอำเภอ แล้วแม่เราอยากย้ายจากตัวอำเภอเข้ามาค้าขายอยู่ในตัวจังหวัด ตอนนั้นเราก็เรียนชั้นประถมล่ะ แต่พอย้ายเข้ามาอยู่ในตัวจังหวัดแล้ว กิจการค้าขายของแม่เราก็เจ๊งค่ะ เปลี่ยนอาชีพค้าขายโน้น นี่ นั่น ไปหลายอย่างมากคะ ชีวิตเราก็เริ่มปากกัดตีนถีบตั้งแต่นั้นมาค่ะ
       
            ชุดนักเรียนเรามีอยู่ตัวเดียว เรียนเสร็จก็กลับมาซักแล้วตาก ตื่นเช้ามาก็รีบรีดแล้วใส่ไปเรียน บางวันตอนเที่ยง ถ้ามีถ่ายเอกสารวิชาเรียน เราก็จะไม่มีเงินกินข้าวเที่ยงค่ะ ไปแอบอยู่ในห้องสมุดบ้าง บางวันก็ไม่มีข้าวกิน ได้กินแค่ข้าวเหนียวก้อนเดียว ชีวิตเราก็ลำบากมาเรื่อย ๆ แต่เราเรียนไม่เก่งนะ เพราะบางทีชุดนักเรียนไม่แห้งมันมีกลิ่นอับ เราอายเพื่อน เลยแกล้งไปนอนห้องพยาบาลบ่อย ๆ

            แต่พอตอนจะเข้ามหาวิทยาลัย เราได้เงินไปมหาลัยวันละ 40 บาท ใช้ไงก็ได้ให้พอ ทั้งกินข้าว ไปกลับ บางวันเราก็ต้องเดินกลับบ้าน ก็ไม่ได้ไกลมาก พอเดินไหวค่ะ  พอเรียนจบเราก็มาทำงานที่กรุงเทพ ก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไปอยู่หอ ได้เงินเดือนเริ่มต้น หมื่นกว่าบาท ส่งให้แม่ ค่าหอ ค่ากิน เราก็แทบไม่มีอะไรเหลือแล้ว

            พอเรามีแฟน  เขาก็อยากสร้างอนาคตร่วมกับเรา แต่เราเงินเก็บไม่มีเลยค่ะ และเราก็มีปัญหากะแฟนอีกหลาย ๆ อย่าง บ้านเรามีแต่หนี้ เราอยากแต่งงาน เพื่อจะได้สักสองแสน เอาไปให้แม่ใช้หนี้ แต่เหมือนแม่แฟนเราจะรู้ แฟนเราเขามาเล่าให้เราฟังว่า แม่แฟนเรามีเงินเก็บอยู่ก้อนเดียว ก้อนสุดท้ายในชีวิต จะให้แม่เราเอาไปใช้หนี้ได้อย่างไง ถ้าแม่เราคืนสินสอดให้ แล้วเอามาให้แฟนกะเราตั้งตัวก็ว่าไปอย่างอ่ะค่ะ (จริง ๆ บ้านแฟนรวยค่ะ) สุดท้ายแฟนเราคงทนไม่ได้ที่บ้านเรามีหนี้ เขาบอกว่าจะต้องรับผิดชอบเรา แล้วก็กะครอบครัวเรา มันตัดกันไม่ขาด ยังไงก็ต้องได้พึ่งพาเขาค่ะ

            เรื่องมันยาวมาก สั้น ๆ สรุปเลยนะคะ คือทุกวันนี้ เราผ่อนบ้าน (บ้านมือสอง) แต่แม่เราก็อยากให้กู้เงินไปให้แม่ใช้หนี้ด้วยค่ะ ประมาณสองแสนบาท เราเบื่อมากค่ะ ไหนจะต้องผ่อนบ้าน แล้วต้องไปกู้มาเพิ่มให้แม่ไปใช้หนี้ ไหนจะต้องผ่อนให้อีก เราเบื่อ รำคาญมากค่ะ ชีวิตอึดอัดมากกับเรื่องเงิน แค่ผ่อนบ้าน เราก็แทบไม่มีจะกินแล้วค่ะ

            ในหลาย ๆ ครั้ง เราอิจฉาเพื่อน ๆ คนอื่นที่เขามีพ่อแม่คอยซัพพอร์ตค่ะ เพื่อนเราเพิ่งซื้อรถไป แม่มันดาวน์ให้หลายแสนเลยคะ คือถ้ามีใครคอยซัพพอร์ต มันก็ไม่เหนื่อยใช่ไหมคะ ส่วนเราไม่มีใครซัพพอร์ต ยังจะต้องมาซัพพอร์ตที่บ้านอีก เราเบื่อโคตร บ้างทีเราก็แช่งในใจให้แม่เราตายนะคะ

            แบบว่า ตาย ๆ ไปเหอะ เรารำคาญ เดี๋ยวจะโน้น นี่ นั่น อีกค่ะ เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิดมันไม่ดี แต่เรารู้สึกแบบนี้จริง ๆ นะ การที่ชีวิตเราเริ่มต้นที่ติดลบ เราก็เหนื่อยแล้วแล้วไหนจะต้องมาใช้หนี้ให้แม่เราอีก ซึ่งหนี้นี้เราก็ไม่เห็นรู้เรื่องอะไรด้วย แต่เขาก็บอกว่า ที่เขามีหนี้

            เพราะเอามาเลี้ยงดูเรา แต่เราคิดว่า ถ้าจะต้องมีหนี้เพราะมาเลี้ยงดูเรา ก็ไม่ควรทำให้เราเกิดมาตั้งแต่แรก เพราะเราก็ไม่ได้อยากเกิดมามีชีวิตอัตคัด ลำบาก ยากเข็ญแบบนี้  ชีวิตเราก็อายุเริ่มเยอะแล้วนะ แต่เราเหนื่อยมากที่จะต้องสร้างเนื้อ สร้างตัวเอง แล้วยังต้องมาแบกรับภาระต่าง ๆ นานา อีกหลายอย่าง

            เราทำงานราชการค่ะ เงินเดือนน้อยมาก หนี้เยอะ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ผ่านอะไรมาเยอะ ที่บ้านเราเตรียมตัวเกาะเราแน่ ๆ แล้วคะ คือเตรียมยึดเราเป็นสรณะแล้ว เพราะที่บ้านพี่ ๆ น้อง ๆ ก็เป็นลูกจ้างกันหมดค่ะมีเราคนเดียวที่สอบเข้ามาได้

            เราแบบว่าคิดในใจ เลี้ยงดูเรามาแบบอด ๆ อยาก ๆ ไม่ได้อยู่สุขสบายอะไรเลย แล้วพอมาวันนี้ก็แบบเหมือนเรียกร้องโน้นนี่นั่นกับเรา บอกว่าลูกเพื่อน คนนู่น คนนี้ สร้างบ้านให้แม่เขาอยู่อะไรแบบนี้ เราเนี่ยอยากจะพูดใส่หน้าคืนเหมือนกันว่า "พ่อแม่เพื่อนเรามันก็ดาวน์บ้าน ดาวน์รถให้เขาค่ะ"

            ที่เล่ามา หลายคนอาจจะอยากด่าเรานะ แต่เราบอกได้เลยว่า ตั้งแต่ ป.สาม จนเรียนจบ ที่บ้านช่วยเหลือเรื่องเงินเราน้อยมาก ตอน ม.ปลาย เป็นต้นไปกู้เรียนตลอด ตอนมหาลัยให้ตังค์เราไปเรียนแค่วันละ 50 บาทเอง เราคิดในใจว่าเลี้ยงดูเรามาแบบอัตคัด ๆ แล้วจะมาเรียกร้องอะไรให้เราดูแลอะไรนักหนา บางทีก็เจ็บไข้ได้ป่วย แบบปวดโน้นปวดนี่  เราเบิกได้ก็จริงแต่เบิกได้ไม่หมด เราก็ต้องควักเงินเราออกเอง ไหนจะกลับบ้านตอนปีใหม่ วันหยุดอีก ก็จะสั่งให้เราซื้อโน้น นี่นั่น แต่ไม่ให้เงินเราสักบาท คือ เรามีเงินพอกินไปแต่ละเดือน ๆ ไม่มาก หักจากรายจ่ายต่าง ๆ ค่าผ่อนบ้านอะค่ะ

            เราเบื่อสภาพแบบนี้มากเลย เราควรทำไงดีคะ บางทีเราก็เกลียดตัวเองที่คิดไม่ดีกะที่บ้านแบบนี้ทางพระพุทธศาสนาบอกว่า เพราะเราเคยติดหนี้เขามา ชาตินี้เราเลยต้องมาชดใช้หนี้ให้อะ ตอนนี้เราไม่กล้ามีแฟนเลยค่ะ เพราะกลัว ที่บ้านเรามีแต่หนี้ จะมีใครที่ไหนเขาอยากจะมาร่วมทุกข์กันใช่ไหมคะ

            อย่างน้อยเขาก็ต้องการคนที่ทัดเทียมกัน ปัญหาภาระเราเยอะแบบนี้ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เราควรจะคิด จะทำไงดีให้เรามีความสุข เพราะเราก็คงเปลี่ยนแม่ไม่ได้แล้ว แต่ถ้าชาติหน้ามีจริง เราก็ไม่อยากเกิดมาเป็นลูกเขานะ และถ้าเรายังไม่รวย เราก็จะไม่มีลูกแน่นอน เราไม่อยากให้ลูกเราลำบาก เราควรทำไงดี คือถ้าตัดเรื่องหนี้ของที่บ้านออกไป ชีวิตเราจะมีความสุขมากกว่านี้อะค่ะ"





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดราม่าสุดขีด เมื่อลูกคิดว่าพ่อแม่เป็นตัวถ่วง เกาะลูกกิน แช่งเมื่อไรจะตาย.. อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2557 เวลา 14:01:46 134,958 อ่าน
TOP