ฉายาตำรวจ 2557 มาแล้ว ใครได้อะไรมาดู แต่ที่รู้ ๆ สตช. รับ ตำรวจลายพราง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         ฉายาตำรวจ 2557 มาแล้ว ! ใครได้อะไรมาดู แต่ที่รู้ ๆ สตช. รับ "ตำรวจลายพราง" พร้อมเผยวลีเด็ดแห่งปี "ยุคสมัยของผม ใหญ่แค่ไหนก็จับ" ด้าน พล.ต.อ. พงศ์พัฒน์ รับ นายพลช็อกโลก

         วันนี้ (21 ธันวาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งชาติ  ได้แถลงข่าวการตั้งฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึง 10 นายตำรวจที่อยู่ในความสนใจของสังคมและวลีเด็ดแห่งปี ประจำปี 2557 ดังต่อไปนี้..

         1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายาว่า "ตร.ลายพราง" เป็นเพราะองค์กรตำรวจในช่วงที่ผ่านมา มีกลุ่มของนายทหารหลายเหล่าทัพเป็นสมาชิกอยู่รวมถึงยังมี ประธานก.ตร. เป็นอดีตนายทหารอีกด้วย และการทำงานของตำรวจในแต่ละพื้นที่ก็มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นหน่วยงานที่ทำงานภายใต้การดูแลจากฝ่ายทหาร

         2. พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รับฉายา "ผบ.ขายฝัน" ซึ่งหลังจากที่เข้ารับตำแหน่ง ได้ให้นโยบานแก่ตำรวจหลายด้าน รวมถึงคิดริเริ่มโครงการเพื่อดูแลขวัญและกำลังใจตำรวจ ด้วยการให้สัญญาว่าจะให้ตำรวจอยู่ดีกินดี จะได้ไม่ต้องมารับสินบนหรือส่วยอีก

          3. พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้รับฉายา "เอก โลกลืม" เนื่องก่อนหน้านี้เป็นแคนดิเดตตำแหน่ง ผบ.ตร. คู่มากับ พล.ต.อ. สมยศ แต่ พล.ต.อ. สมยศ ได้รับเลือกให้นั่งตำแหน่ง ผบ.ตร. ทำให้ พล.ต.อ. เอก ถูกลดบทบาทลงจนไม่ค่อยปรากฏต่อสื่ออย่างเช่นเคย

         4.  พล.ต.อ. เอก เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้รับฉายา "รองแตกฟอง" เนื่องจาก พล.ต.อ. เรืองศักดิ์ มักจะเดินทางไปตรวจสอบหลายคดีด้วยตัวเอง รวมถึงให้ข้อมูลทางคดีกับสื่อมวลชนอย่างละเอียด พร้อมทั้งชอบอธิบายรายละเอียดของงานต่อสื่อมวลชนนานกว่าปกติด้วย จึงเป็นที่มาของฉายาเพราะเป็นคนชอบพูดนั่นเอง

         5. พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "โฆษกหน้าย่น"  เพราะตลอดการทำงานของ พล.ต.ท. ประวุฒิ มักมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาการให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวหรือตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ก็ไม่ค่อยเห็นรอยยิ้มให้ปรากฏต่อหน้าสื่อมวลชนสักเท่าไร

          6. พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้รับฉายา "นายพลช็อกโลก"  สืบเนื่องจากความรู้ความสามารถของ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ที่เป็นนายตำรวจฝีมือดีและเป็นครูตำรวจอย่างแท้จริง แต่ในที่สุดก็ถูกจับทั้งหมิ่นเบื้องสูงและซื้อขายตำแหน่ง เปิดบ่อน และมีทรัพย์สินจำนวนกว่า 2 พันล้านบาทเลยทีเดียว
 
         7. พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้รับฉายา "น.1 เอาคืน" สืบเนื่องจากกรณีการทำสัญญาเกี่ยวกับป้ายโฆษณาหรือจอแสดงภาพบนป้อมจราจรของบริษัทเอกชนไม่ถูกต้อง เลยแจ้งให้ ผบ.ตร. รับทราบ และรื้อป้ายโฆษณาที่ถูกต้องออกจากพื้นที่ในที่สุด

         8. พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้รับฉายา "มิสเตอร์โปรเจคท์" โดย พล.ต.ต. อดุลย์ เป็นนายตำรวจที่ถูกวางบทบาทให้ดูแลเรื่องการจราจร และมีแนวคิดในการแก้ปัญหาจราจรมากมายหลายวิธีด้วยกัน อาทิ โครงการจับประชาชนทำผิดติดสินบนตำรวจจราจร, คลินิกตำรวจจราจร, โครงการแก้ไขปัญหาจราจรกรณีน้ำท่วมขังและอุทกภัย, โครงการจัดตั้งศาลจราจร, โครงการผู้พิทักษ์ถนน เป็นต้น

         9. พล.ต.ต. สมบัติ มิลินทจินดา ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ได้รับฉายา "บัติ คัมแบ็ค" เพราะก่อนหน้านี้ถูกย้ายไปทำงานในพื้นที่ภูธรภาค 1 แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ผบ.ตร. ทางด้าน พล.ต.ต.สมบัติ ได้รับการไว้วางใจให้กลับเข้ามาดูแลงานสืบสวนของบช.น. ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการคลี่คลายคดีต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของฉายาดังกล่าวที่นายตำรวจคนนี้ได้กลับมายังถิ่นเก่าอีกครั้ง

         10. ร.ต.ต. ธีรเดช เล็กภู่ รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับฉายา "วีรบุรุษผ่านฟ้า" เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการชุมนุมของม็อบ กปปส. ต่อต้าน และขับไล่รัฐบาล ด.ต. ธีรเดช (ยศขณะนั้น) ได้ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนบริเวณสะพานผ่านไป และจังหวะที่คนร้ายขว้างระเบิดมา ด้าน ร.ต.ต. ธีรเดช เห็นจึงรีบเตะระเบิด จนทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ช่วยเหลือชีวิตเพื่อน ๆ ตำรวจไม่ให้เสียชีวิต
 
          11. พ.ต.อ. เด่นชัย บุตรโพธิ์ศรี อดีตนักบิน (สบ 5) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ได้รับฉายา "นักบินนอกรันเวย์" จากกรณีที่ พ.ต.อ.เด่นชัย ตกเป็นผู้ต้องหาปลอมคำสั่ง ผบ.ตร. เพื่อเข้าค้นแรงงานต่างด้าวในสถานบริการย่านห้วยขวาง แต่แล้วถูกตำรวจท้องที่เข้ามาร่วมตรวจสอบพบว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นของปลอมจึงเป็นเหตุให้ถูก ผบ.ตร. สั่งให้ออกจากราชการพร้อมกับแจ้งข้อหาดำเนินคดี หมดอนาคตในอาชีพตำรวจ

         12. วลีเด็ดแห่งปีนั้น "ยุคสมัยของผม ใหญ่แค่ไหนก็จับ" เป็นคำให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนของพล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ในการแถลงข่าวการจับกุมเครือข่าย พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. กับพวก พร้อมยึดทรัพย์สินหลายหมื่นรายการ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท... ที่กล่าวอย่างมั่นใจและเป็นการให้คำมั่นสัญญาให้กับประชาชนว่า..พร้อมที่จะจับทุกคนที่ทำผิด ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก