ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่รอด ถูก สนช. ถล่มโหวตถอดถอน ขณะนิคม-สมศักดิ์รอด

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
 
          ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูก สนช. ถล่มโหวตฟันจากตำแหน่ง 190 ต่อ 18 ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง และนักการเมืองคนแรกที่ถูกถอดถอน ขณะที่สมศักดิ์-นิคม รอดตัว ไม่โดนถอดถอน

          วันนี้ (23 มกราคม 2558) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นัดลงมติถอดถอนนักการเมืองดัง 3 คน ด้วยกัน คือ นายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เสียงที่จะใช้ถอดถอน สมศักดิ์-นิคม-ยิ่งลักษณ์ คือ 132 เสียงใน 220 เสียง หรือ 3 ใน 5 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผลคือ จะเป็นการตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี

           ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าวมีสมาชิก สนช. เข้าร่วมประชุม 219 คน ขาดเพียง พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ที่แจ้งลาป่วย

           ขณะที่การประชุมเริ่มต้นขึ้น โดยสมาชิก สนช. ได้เสนอให้นำสำนวนคดีของนายสมศักดิ์ นายนิคม มารวมกับคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ เพื่อลงมติพร้อมกันทั้ง 3 คน ป้องกันการชี้นำ ซึ่งที่ประชุมก็เห็นชอบ และให้สมาชิกลงคะแนนลับพร้อมกันทั้ง 3 คน

           ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดการนับคะแนน ปรากฏว่า สนช. ลงมติดังนี้

           - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถอดถอน 190 เสียง ไม่ถอดถอน 18 เสียง ไม่ออกเสียง 8 บัตรเสีย 3
           - นายนิคม ไวยรัชพานิช ถอดถอน 95 เสียง ไม่ถอดถอน 120 เสียง งดออกเสียง 4
           - นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ถอดถอน 100 เสียง ไม่ถอดถอน 115 เสียง งดออกเสียง 4

           สรุป นางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกถอดถอนแต่เพียงผู้เดียว ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง และนักการเมืองคนแรก ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง

           ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ได้แถลงข่าวระบุว่า สนช. ไม่อาจปฏิเสธอำนาจวุฒิสภาได้ จึงมีมติให้ถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ส่วนการที่ลงมติไม่ถอดถอน นายสมศักดิ์ และนายนิคมนั้น เนื่องจากความผิดดังกล่าวไม่ครบองค์ประกอบตามรัฐธรรมนูญ

           ด้านนายนิคม กล่าวภายหลังทราบผลว่า ตนรู้สึกสบายใจมาก ที่ผ่านมาเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ขอขอบคุณสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้ใช้เหตุและผลในการลงมติ


 เกาะติดคดีถอดถอน ยิ่งลักษณ์-สมศักดิ์-นิคม คดีจำนำข้าว

          12.08 น. นับคะแนนนิคม-สมศักดิ์ จบแล้ว ไม่ถูกถอดถอน ขณะที่ยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน

          12.02 น. สื่อเกาะติด คะแนนถอดถอนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทิ้งห่าง ไม่ถอดถอน ขณะที่คะแนนของสมศักดิ์และนิคม ยังสูสี

          11.50 น. เริ่มนับคะแนนพร้อมกันทั้ง 3 กระดาน โดยคะแนนถอดถอนนำ

          11.45 น. สมาชิก 219 คน ลงคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังตรวจนับบัตรลงคะแนนในหีบทั้ง 3 ใบ

          11.00 น. สนช. เริ่มลงคะแนนปมถอดถอน ยิ่งลักษณ์-นิคม-สมศักดิ์แล้ว

          10.45 น. สนช. ทำการจับสลากกรรมการนับคะแนน จำนวน 10 คน 3 ชุด สำหรับกรณีการถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช, นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

          10.36 น. สมาชิก สนช. เดินทางมาเข้าร่วมประชุมแล้ว 219 คน จากทั้งหมด 220 คน ขาด พล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ที่แจ้งลาป่วย

          10.27 น. พรเพชร ประธาน สนช. ชี้แจง การลงมติถอดถอน ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 หรือ 132 เสียงขึ้นไป จึงเป็นผลให้ถอดถอน พร้อมระบุว่า ใบลงคะแนนถอดถอนนายนิคมเป็นสีชมพู นายสมศักด์เป็นสีขาว และสีเหลืองเป็นของนางสาวยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้ใบลงคะแนนมีแค่ 2 ช่อง คือ ถอดถอน หรือ ไม่ถอดถอน หากเขียนข้อความนอกเหนือจากนี้ถือเป็นบัตรเสีย แต่หากไม่กากบาทอะไร ถือว่างดออกเสียง

          10.23 น. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เสนอให้โหวตพร้อมกัน 3 คน เพื่อไม่ให้เกิดการชี้นำ หากลงคะแนนชี้ขาดสำนวนใดก่อน ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ เสนอให้ขานชื่อสมาชิก และแจกบัตรลงมติทั้ง 3 คน ก่อนเข้าคูหากาทีเดียว เพื่อความรวดเร็วและโปร่งใส

          10.20 น. สนช. เปิดประชุมลงมติถอดถอนแล้ว โดยมีสมาชิกลงชื่อเข้าประชุมจำนวน 215 คน จากทั้งหมด 220 คน


สนช. ยัน ไม่มีใบสั่งคดีถอดถอน

          ขณะที่ก่อนเริ่มประชุม นายพรศักดิ์ เจียรณัย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เเละ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า สำหรับตนเเล้ว อยากให้พี่น้องประชาชนใช้วิจารณญาณในการคิดเเละรับข้อมูลข่าวสารในเรื่องดังกล่าวด้วยใจเป็นกลางว่าโครงการดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติจริงหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เเละประโยชน์ของโครงการนั้นมีจริงหรือไม่ ชาวนาเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการนั้นจริงหรือไม่

          พร้อมกันนี้ ขอยืนยันว่า การทำงานของ สนช. นั้น  สนช. ทุก ๆ ท่านทำงานด้วยวิจารณญาณเเละมีความเป็นตัวของตัวเองที่สูงมาก ตนยืนยันว่าไม่มีใบสั่งใด ๆ อย่างที่เป็นข่าวเเละมีกระเเสวิพากษ์วิจารณ์เเน่นอน

ตำรวจจัดกำลัง 2 กองร้อย ดูแลความสงบ ชี้ การข่าวไม่มีเหตุป่วน

          ด้าน พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลความเรียบร้อยโดยรอบรัฐสภา เบื้องต้น ส่งกำลังตำรวจ 2 กองร้อย ดูแล และยังมีอีกส่วนหนึ่งเตรียมพร้อมไว้ในที่ตั้ง หากมีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นด้วย

          โฆษก สตช. กล่าวอีกว่า การข่าวล่าสุดยังไม่มีผู้ที่จะเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีคนมาให้กำลังใจทั้ง 3 คนบ้าง แต่คงไม่มากเท่าไร ซึ่งตำรวจจะได้ดูแลความเรียบร้อยต่อไป