อดีตพระเกษม-ลูกศิษย์ กับคำตอบของเรื่องฉาว ทำวงการสงฆ์สั่นสะเทือน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก วู้ดดี้เกิดมาคุย

            อดีตพระเกษม-ลูกศิษย์ กับคำตอบของเรื่องฉาว ทำวงการสงฆ์สั่นสะเทือน ในวู้ดดี้เกิดมาคุย ที่มาถามคำถามแรง ๆ เปิดทุกประเด็นเสพเมถุนคาผ้าเหลือง

            เป็นประเด็นฉาวของวงการสงฆ์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับกรณีที่ อดีตพระเกษม เจ้าสำนักสงฆ์สามแยก จ.เพชรบูรณ์  ออกมายอมรับกับคณะกรรมการวัดว่า ตัวเองนั้นเสพเมถุนกับลูกศิษย์อุปถัมภ์ ซึ่งอดีตพระเกษมได้ออกมาขอร้องให้พระผู้ใหญ่รวมถึงกรรมการวัดช่วยกันชี้ชัดว่าตนเองนั้นผิดถึงขั้นปาราชิกหรือไม่ เพราะตอนที่เสพเมถุน อดีตพระเกษมอ้างว่า "ไม่รู้ตัว" แต่แล้วเวลาผ่านไปเพียงแค่คืนเดียว อดีตพระเกษมก็ขอลาสิกขาด้วยตัวเอง โดยระบุว่า เข้าไม่ถึงฌานและสิ่งที่ทำก็ยังเกิดข้อข้องใจในตัวเอง เลยขอลาสิกขาออกมาเองดีกว่า.. แต่ก็ยังขอปฏิบัติธรรมและยังอยู่ในสำนักสงฆ์ต่อ...

            ต้องยอมรับเลยว่า ประเด็นนี้สร้างความเคลือบแคลงใจให้กับใครหลายคน โดยเฉพาะคำตอบของอดีตพระเกษม ที่บอกว่ากระทำการดังกล่าวลงไปโดยไม่รู้ตัว เพราะหากไม่รู้ตัวจริง ๆ ครั้งแรก ครั้งที่สอง คงจะพอได้แล้ว แต่นี่อดีตพระเกษมได้เสพเมถุนกับลูกศิษย์คนเดิมถึง 10 กว่าครั้งเลยทีเดียว.. โดยอ้างว่าครั้งหลัง ๆ ทำลงไปเพราะต้องการลองของว่าตนเองเป็นพระอรหันต์จริงหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย (25 มกราคม 2558) ก็ขอพาทุกท่านไปฟังคำตอบชัด ๆ จากปากอดีตพระเกษม กับคำถามที่แฟน ๆ รายการฝากถามมา ซึ่งต้องบอกเลยว่า... แต่ละคำถามแรงมาก ๆ เลยจริง ๆ


            เริ่มต้นรายการด้วยคำถามที่ว่า การนุ่งขาวห่มขาวที่อดีตพระเกษมสวมใส่อยู่นี้ แทบจะไม่ต่างอะไรกับการสวมจีวรเลย ซึ่งพระเกษมก็บอกว่า ต่างกันนะ เพราะถ้าเป็นพระจะบิดผ้าแล้วพันขึ้นไป ส่วนการห่มขาวของตนนั้นเพียงแต่เพราะกันลมหนาวเท่านั้น.. ไม่ได้ตั้งใจทำให้เหมือนพระสงฆ์แต่อย่างใด
 
            พิธีกรอย่างวู้ดดี้ ยังถามอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ห่วงความรู้สึกของคนรอบข้างบ้างหรือเปล่า ด้านอดีตพระเกษมตอบว่า ก็ห่วงความรู้สึกทุกคน แต่มันเป็นความจริงที่เราต้องยอมรับ ถ้าเขารับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เป็นความผิดที่ตนก่อและตนก็ต้องอยู่กับมันให้ได้

            อดีตพระเกษม กล่าวต่อว่า กับประเด็นที่หลายคนสงสัยคือเรื่องที่ตนเป็นเกย์หรือเปล่า ตนยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นเกย์หรือชอบผู้ชายด้วยกัน ตอนแรก ๆ ก่อนที่จะบวชพระ ตนรู้สึกเกลียดเกย์ด้วยซ้ำไป แต่พอเรียนพระธรรมคำสอน ก็ทำให้เราเข้าใจว่า การเป็นกะเทยเราจะบังคับกันไม่ได้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตนยอมรับเลยว่ากลัวคนทั้งประเทศเกลียดและก็กลัวคนที่นี่รังเกียจด้วย แต่ตอนนี้คนที่นี่ยอมรับตน เพราะถ้าเขาไม่รับ ตนก็จะไปตามทางของตน..

            นอกจากนี้ ทางวู้ดดี้ยังได้เชิญ คุณต่อ ลูกศิษย์ที่เสพเมถุนกับอดีตพระเกษม มาพูดคุยเปิดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น.. โดยคุณต่อเล่าว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนเสียใจมันก็เสียใจแหละ แต่ตนก็ยังเคารพอยู่

            "ตอนนั้นเข้าใจว่าเป็นสุดยอด เป็นพระอรหันต์ ครั้งแรกก็นวดธรรมดานี่แหละ สักพักก็มีเพศสัมพันธ์ ส่วนพระเกษมตอนนั้นเขาก็เหมือนผีเข้า ไอ้เราก็งงด้วย ก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร เพราะเคารพ แต่ตอนนั้นความรู้สึกก็หลากหลาย ขัดขืนแค่ในตอนแรกเท่านั้น คิดในใจว่า นี่เรานับถือเขาเป็นพ่อนะ พ่อที่เราเคารพรักมากนะ ทำไมต้องทำแบบนี้กับเรา หลังจากนั้นผมก็ได้หนีไปประมาณ 1 สัปดาห์ ในใจมันจดจ่ออยู่แค่เรื่องกรรม คิดว่าเป็นกรรมของเรา.."  คุณต่อ กล่าว


            คุณต่อ ลูกศิษย์อดีตพระเกษม ยังกล่าวอีกว่า พอหนีไปสักพักในใจก็ยังอยากรู้ว่า พระเกษมเป็นพระอรหันต์จริงหรือไม่ เลยไปถามกับพระรูปหนึ่ง ซึ่งเขาบอกว่าใช่ พระเกษมยังเป็นพระอรหันต์ ในใจของตนคือยังพอมีความเชื่อมั่นในตัวพระเกษม พอพระรูปนั้นมาบอกเช่นนี้ ก็เลยกลับไปหาพระเกษมและไปขอขมาที่หนีออกไป มาขอขมาที่คิดไม่ดีกับท่าน.. ส่วนเรื่องนี้ก็เก็บอยู่ในใจมากนาน เก็บไว้คนเดียว ไม่รู้จะพูดกับลูกและภรรยาอย่างไรดี แต่เพราะคำว่า "ศรัทธา" เลยเก็บปัญหานี้ไว้ในใจเรื่อยมา

            คุณต่อ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นครั้งแรกที่ตนมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ตอนนี้ทั้งเศร้าแล้วก็เครียดมาก ๆ พอนึกถึงภาพเก่า ๆ ก็เศร้าขึ้นมาอีก

            ด้านวู้ดดี้ ยังตั้งข้อสังเกต เพราะเหตุใดพระรูปหนึ่งที่ทำผิดจนถึงขั้นปาราชิก แต่ทำไมถึงมีคนมากราบไหว้บูชาอยู่ ด้านพระเกษม ตอบว่า เขานับถือที่ตนให้วิชาความรู้เกี่ยวกับพระรัตนตรัย เพราะตนไม่เคยสอนให้เขายึดติดกับตัวบุคคลเลย ให้ยึดติดกับความถูกต้องและความเป็นจริง ตนก็งงเหมือนกัน ตนทำผิดขนาดนี้ยังมีคนมารักตนมากขนาดนี้

            ต่อจากนั้น วู้ดดี้ ก็ได้เปิดคำถามของแฟนเพจที่ได้ฝากคำถามมาถามกับอดีตพระเกษม ซึ่งคำถามแต่ละข้อต้องบอกเลยว่าแซ่บแรงมาก ๆ เลยทีเดียว


คิดว่าจะอยู่วัดไปนานแค่ไหน อายบ้างไหม

            อดีตพระเกษม : อายครับ อยู่ต่อเพราะมีคนให้อยู่
 
สึกออกมาได้ทำอะไรกับใครอีกบ้าง

            อดีตพระเกษม : ไม่ครับ ช่วยตัวเองยังไม่ได้ทำเลยครับ

พระเกษม นี่มาจากพระเกษมสำราญหรือเปล่า

            อดีตพระเกษม : ไม่ครับ ชื่อจริงคือ นายเกษม ดวงแพงมาต

ควรจะรับผิดชอบอะไรบ้างนะ ไม่ใช่แค่สึก พวกมารศาสนาอย่างนี้

            อดีตพระเกษม : ทางธรรมถือว่ารับโทษเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว เพราะโทษสูงสุดในการเป็นสงฆ์คืออาบัติ ตอนนี้ก็สึกเรียบร้อย แต่ถ้าทางกฎหมายมีตนก็พร้อมยอมรับโทษครับ

ที่ทำไปเพราะหื่นหรือเปล่า

            อดีตพระเกษม : เพราะซึมครับ ไม่รู้ตัว คิดว่าตัวเองหลุดพ้น

ทำขนาดนี้ยังมีหน้าให้คนมากราบไหว้อีก

            อดีตพระเกษม : ตนจะไปไล่เขาได้อย่างไรว่าอย่ามากราบ เขามีส่วนระลึกในเรื่องพระรัตนตรัยที่ตนเคยให้ความรู้
      
เคยลองของแบบนี้กับผู้หญิงหรือเปล่า

            อดีตพระเกษม : เคยครับ แต่ก่อนบวช

อายไหม ละอายบ้างไหม ที่เอาผ้าเหลืองมาทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้

            อดีตพระเกษม : ละอายมาก ๆ อายยิ่งกว่าขวานสับหน้า ปืนยิงหน้าเสียอีก

อ้างเรื่องนี้เพราะอยากดังใช่ไหม

            อดีตพระเกษม : ไม่เคยคิดอยากดังครับ ที่ทำไปเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอรหันต์

            อย่างไรก็ดี ท้ายนี้ อดีตพระเกษมได้กราบขออภัยทุกคนและทุกอย่างที่ทำมา โดยบอกว่าความรู้สึกผิดมันมาเป็นระลอก ๆ ภาพวันนั้นมันวนมาซ้ำ ๆ ถ้าไม่มีใครรับตนได้ ตนก็จะขอเดินไปตามเรื่องตามราวของตน แต่ทุกวันนี้ ลูกศิษย์ยังเคารพและศรัทธา เพราะทุกคนไม่ได้ยึดที่ตัวของตนแต่ยึดกับวิชาความรู้ที่ตนเคยสอนไป ส่วนกับพระผู้ใหญ่และพระเถระตนได้ขออภัยไปหลายรอบแล้ว...






**อัพเดทข้อมูลเมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 27 มกราคม 2558