รวบแล้วคนร้ายฟันแขนชิงไอโฟน 6
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
รวบแล้วคนร้ายฟันแขนสถาปนิกชิงไอโฟน 6 ตำรวจจับได้เพราะคุยโวในกลุ่มโจร บอกได้ออกทีวี เจ้าตัวรับสารภาพทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เผยตระเวนเลือกเหยื่อที่ถือโทรศัพท์แพง ๆ ก่อนจะจอดรถเข้าชิง
วันนี้ (27 มกราคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวความคืบหน้ากรณีที่ นายรัฐพล หัทยาภิชาติ หรืออาร์ม สถาปนิกหนุ่มวัย 25 ปี ถูกคนร้ายชิงไอโฟนในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณสะพานลอยขึ้นรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยนายรัฐพลถูกคนร้ายใช้มีดฟันบริเวณแขนจนต้องเย็บถึง 30 เข็ม
ทั้งนี้ทางรายการเคยนำเสนอข่าวดังกล่าวไปแล้ว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่นายรัฐพลกำลังเดินกดโทรศัพท์ไอโฟน 6 อยู่ ระหว่างเดินจากห้างเซ็นจูรีมายังสะพานลอยขึ้นบีทีเอส ตอนแรกมีรถจักรยานยนต์ขับผ่านมาเห็นก็ชะลอและขับวกรถมาใหม่ จากนั้นคนขับรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ก็ได้ลงจากรถและรีบวิ่งไปชิงไอโฟนจากมือนายรัฐพล โดยมีการฉุดกระชากกันอยู่สักพัก ซึ่งนายรัฐพลระบุว่า ตนพยายามยื้อให้ถึงที่สุดและพยายามจะถอดหมวกกันน็อกของคนร้ายด้วย พอสบโอกาสตนก็ล็อกคอคนร้าย ด้านพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นก็จะเข้ามาช่วย แต่คนร้ายบอกว่ามีปืน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าถอยกรูกันออกไป ส่วนตนก็ล็อกคอให้แน่นกว่าเดิม จนในที่สุดคนร้ายก็บอกว่า ไม่เอาแล้วไอโฟนน่ะ เอาไปเลย ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หนีไป พอคนร้ายหนีไปได้ ตนก็ก้มลงมองที่แขน ก็พบว่ามีแผลเหวอะเลือดไหวเต็มไปหมด จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลราชวิถี
หลังจากนั้นก็มีประเด็นในเรื่องการให้บริการของโรงพยาบาล ซึ่งนายรัฐพล กล่าวว่า โรงพยาบาลปล่อยให้เขานอนอาบเลือดนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่มีการบรรเทาความเจ็บปวด ทำเพียงแต่การห้ามเลือดเบื้องต้นเท่านั้น ทำให้เขาต้องย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไทแทน ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการพูดคุยเปิดใจในรายการเจาะข่าวเด่นเย็น วันนี้
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว โดยขยายผลจากคดีที่ 2 คนร้ายเข้าชิงไอโฟนของแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งคนร้ายให้การรับสารภาพว่า รวมกลุ่มตระเวนทำการลักษณะนี้ 6 คน พร้อมทั้งยังบอกว่า คนร้ายที่ก่อเหตุชิงไอโฟน 6 ของสถาปนิก ยังมาคุยโวในกลุ่มเพื่อน ๆ เลยว่า ข่าวของเขาออกรายการสรยุทธ์ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยคนร้ายรายนี้อายุ 18 ปี สารภาพว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง และทำมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง โดยจะดูเหยื่อที่ถือโทรศัพท์แพง ๆ ก่อนที่จะเข้าชิงอย่างรวดเร็วเพื่อนำโทรศัพท์ไปขายต่อ ซึ่งในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแถลงผลการจับกุมให้ได้ทราบกันวันนี้ต่อไป
