x close

โฆษก ตร. เผยผลถกปฏิรูปตำรวจ มติหนุน ต้องอิสระจากการเมือง


โฆษก ตร. เผยผลถกปฏิรูปตำรวจ มติหนุน ต้องอิสระจากการเมือง
โฆษก ตร. เผยผลถกปฏิรูปตำรวจ มติหนุน ต้องอิสระจากการเมือง   


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           โฆษก ตร. แถลงสรุปประชุมปฏิรูปตำรวจ มติเห็นพ้อง ต้องปลอดการเมือง ไร้การแทรกแซง เตรียมตั้งคณะทำงานรับฟังเสียงประชาชนต้องการให้ตำรวจแก้ไขอย่างไร ย้ำต้องยึดประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ 

           เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยหลังการประชุมกำหนดแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า การประชุมในครั้งได้ข้อสรุปว่า การปฏิรูปองค์กรตำรวจนั้น อันดับแรกจะต้องจะต้องทำให้ตำรวจปลอดจากการเมือง ให้เป็นลักษณะเดียวกับองค์กรอื่น ๆ ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้การดำเนินการด้านกระบวนการยุติธรรมมีความเป็นธรรม ความปลอดภัย และลดปัญหาการแทรกแซงจากการเมือง ส่วนรายละเอียดจะเป็นเช่นไรนั้นต้องพิจารณาอีกครั้ง และยืนยันว่าการเมืองท้องถิ่นไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูป

           ประเด็นต่อมาคือ การรวบรวมข้อมูลสรุป ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อะไรบ้างที่ประชาชนมองว่าตำรวจมีปัญหา และต้องการให้ตำรวจทำอย่างไร เพื่อการแก้ที่ตรงจุด โดยจะมีการเปิดเวลาประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนทั้งในส่วนกลาง และต่างจังหวัด ทั้งนี้การรับฟังความเห็นข้อเสนอแนะในการปฏิรูป จะรับฟังข้อมูลจาก 4 ส่วน ได้แก่ ประชาชน ผู้ที่เคยทำงานร่วมกับตำรวจ หน่วยราชการอื่น ๆ และตำรวจรวมไปถึงครอบครัวตำรวจ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลการปฏิรูปให้สอดคล้องกับความต้องการประชาชน เนื่องจากการปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้ยึดหลักการที่ว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด

           นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้จัดตั้งคณะทำงานขึ้น 6 คณะ ไปศึกษาหาข้อมูลในเชิงประจักษ์ เกี่ยวกับอุปกรณ์ในการทำงานของตำรวจทุกด้านว่า มีความพร้อมหรือไม่ และขาดแคลนเรื่องใดบ้าง พร้อมทั้งสรุปงบประมาณทั้งหมดที่สนับสนุนโครงสร้างการทำงานของตำรวจว่าที่ผ่านมาขาดแคลนงบประมาณด้านใดบ้าง เพื่อนำมาพิจารณาในที่ประชุมอีกครั้ง

           อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายอมรับว่างบประมาณ ที่มีให้สำหรับอุปกรณ์สนับสนุนการทำงานของตำรวจยังขาดแคลนอยู่มาก ตัวอย่างเช่นการสำรวจล่าสุด มีตำรวจที่ต้องทำงานด้านปฏิบัติงาน 100,000 นาย แต่มีเสื้อเกราะที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐเพียง 9,000 ตัวเท่านั้น 

           พล.ต.ท. ประวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเรื่องของการโอนงานในกับองค์กรภาคท้องถิ่นหรือหน่วยอื่น ๆ นั้น ตนยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความพร้อมในการโอนภารกิจได้ทันที ขึ้นอยู่ที่ท้องถิ่นหรือหน่วยงานที่จะรับไปมีความพร้อมรับไปมากน้อยแค่ไหน ทั้งด้านงบประมาณ และคุณภาพของการปฏิบัติงาน ที่สำคัญต้องไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น หากมีความพร้อมทางตำรวจก็ยินดีถ่ายโอนงานให้ได้ในทันที
 
           ส่วนประเด็นที่มีเสนอให้แยกงานสอบสวนออกจากตำรวจนั้น คณะทำงานมองเอาไว้ประมาณ 3 โมเดล ได้แก่

              1. แยกพนักงานสอบสวนที่ขณะนี้มีทั้งหมดประมาณ 40,000 นาย ไปอยู่กับอัยการ แต่ปัญหาคือสามารถจ่ายเงินเดือนได้สูงเป็นแสนได้เท่ากับอัยการหรือไม่

              2. แยกตัวเป็นอิสระ เป็นหน่วยงานด้านสอบสวนเฉพาะ แต่ต้องถามว่าความพร้อมมากน้อยแค่ไหน และเมื่อแยกตัวไปแล้วการประสานงานจะเกิดปัญหาหรือไม่

              3. สังกัดอยู่กับตำรวจเช่นเดิม แล้วพัฒนาค่าตอบแทนให้มีความสอดคล้องกับปริมาณงาน พร้อมกับบริหารด้วยการลดปริมาณงานแต่เพิ่มคุณภาพ

           ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 แนวทางที่ว่ามายังเป็นเพียงแนวคิดที่ ผบ.ตร. มอบหมายให้คณะทำงานไปดำเนินงาน และกำหนดให้มีการรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์

โฆษก ตร. เผยผลถกปฏิรูปตำรวจ มติหนุน ต้องอิสระจากการเมือง


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โฆษก ตร. เผยผลถกปฏิรูปตำรวจ มติหนุน ต้องอิสระจากการเมือง อัปเดตล่าสุด 27 มกราคม 2558 เวลา 22:45:02 3,983 อ่าน
TOP