x close

ผบช.ภาค 7 รับคดียาก ไม่พบลายนิ้วมือโจรข่มขืนแม่เฒ่าในทะเบียนราษฎร


ผบช.ภาค 7 รับคดียาก ไม่พบลายนิ้วมือโจรข่มขืนแม่เฒ่าในทะเบียนราษฏร์
ผบช.ภาค 7 รับคดียาก ไม่พบลายนิ้วมือโจรข่มขืนแม่เฒ่าในทะเบียนราษฎร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

            คดีข่มขืนหญิงชรา เบื้องต้นดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 5 รายยังไม่ตรงกับคนร้าย ขณะที่การสืบสวนค่อนข้างยากหลังไม่พบรอยนิ้วมือคนร้ายในทะเบียนราษฎร

            สืบเนื่องจากคดีคนร้ายโรคจิต ก่อคดีข่มขืนหญิงชราต่อเนื่อง 10 คดี นับตั้งแต่ ปี 2553 ในพื้นที่ 3 จังหวัดคือสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม โดยเหตุล่าสุดเกิดขึ้นกับหญิงชราวัย 71 ปีในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 25 มกราคม 2558 นั้น

            ความคืบหน้าในวันที่ 27 มกราคม 2558 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ก่อนมีการเปิดเผยว่า คดีนี้ได้ระดมตำรวจจากหลายหน่วยเข้าคลี่คลายคดี โดยจาก 9 คดีที่ผ่านมา คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน เพราะจากการเก็บหลักฐานดีเอ็นเอของคนร้ายในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบปรากฏว่าตรงกับหมดทั้ง 9 คดี เหลือเพียงคดีที่ 10 ซึ่งเกิดเหตุท้องที่นครชัยศรี ยังไม่ยืนยันว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกันหรือไม่ อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากสถาบันนิติเวชวิทยา แต่พฤติกรรมของคนร้ายคล้ายกับ 9 คดีก่อนหน้าจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน และคาดว่าคนร้ายยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ภาค 7 ละแวกสมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรืออาจจะยังอยู่ใน อ.นครชัยศรี เนื่องจากตัวคนร้ายอาจจะยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกไล่ล่าจากเจ้าหน้าที่

            ด้าน พล.ต.ท. วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภาค 7 เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ 9 คดีที่ผ่านมานั้น พบว่าคนร้ายจะก่อเหตุช่วงวันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ในแต่ละคดีการก่อเหตุจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นหญิงสูงวัย ลักษณะขาวอวบ ส่วนเรื่องภาพสเก็ตช์คนร้ายที่มีใบหน้าต่างกันทั้งสองรูปนั้น เป็นเพราะคนร้ายก่อเหตุในยามกลางคืน ประกอบกับผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสูงวัยอยู่ในอาการตกใจ จึงได้ภาพออกมาลักษณะดังกล่าว ซึ่งสามารถเอามาเป็นแนวทางในการสืบหาตัวคนร้ายได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ได้นำกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีอาชีพหาสัตว์น้ำมาตรวจดีเอ็นเอแต่ไม่ตรงกับของคนร้าย

            ขณะที่ พล.ต.ท. โสภณ พิสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. รับผิดชอบ บช.ภาค 7 เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 วันมานี้ได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านและพลเมืองเป็นจำนวนมาก ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบและเชิญตัวมาหลายคนแล้ว แต่ไม่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น คือการตรวจสอบประวัติ รูปร่างหน้าตา ว่าใกล้เคียงกับคนร้ายหรือไม่ ซึ่งหากผ่านการคัดกรองเบื้องต้นก็จะส่งตรวจดีเอ็นเอต่อไป

            ทางด้าน พล.ต.ท. มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. เปิดเผยว่า แม้ผลการตรวจที่เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากวัตถุพยาน อาทิ จากตัวผู้เสียหาย ปลอกหมอน ที่นอนของทั้ง 9 คดี เป็นของคนเดียวกัน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวอย่างดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่เก็บได้ไปเทียบกับฐานข้อมูลอาชญากร ยังไม่พบว่าตรงกับผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสารบบ ขณะที่ล่าสุดฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัย 5 ราย มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และรอยเท้า แต่พบว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุ

            นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวจากชุดคลี่คลายคดีแจ้งว่า จากการสอบปากคำเหยื่อหลายรายให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายตรงกันหลายอย่าง โดยเฉพาะเสื้อยืดแขนยาวสีทึบของคนร้าย ซึ่งผู้เสียหายสังเกตเห็นตัวหนังสือบนอกเสื้อข้อความว่า "ประเสริฐ" แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียด สรุปได้ว่าจริง ๆ แล้วตัวหนังสือทั้งหมดคือ "ประเสริฐกุล" ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเบาะแสค่อนข้างแน่ชัดว่าเสื้อยืดแขนยาว สีทึบ มีข้อความที่หน้าอก "ประเสริฐกุล" มีแหล่งที่มาอยู่ในย่านสมุทรสาคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อคลี่คลายประเด็นนี้แล้ว

            ขณะที่ พล.ต.ท. วีรพงษ์ ยอมรับว่าคดีนี้สามารถคลี่คลายได้ยาก เพราะคนร้ายใช้ชีวิตเหมือนคนปกติไม่เป็นที่สะดุดตา อีกทั้งลายนิ้วมือแฝงที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุก็ยังไม่พบในทะเบียนราษฎรด้วย จึงคาดว่าอาจเป็นบุคคลที่ตกสำรวจ อย่างไรก็ตามจากการย้อนดูคดีที่ผ่านมาทำให้สามารถจำกัดกลุ่มคนร้ายได้ดีขึ้น โดยคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นผู้ใช้แรงงานไม่ประจำ และมีความสามารถในการหาปลา

            ทั้งนี้เชื่อว่าร้ายไม่ใช่ผู้ป่วยทางประสาทหรือโรคจิต แต่มีความผิดปกติประเภทกามวิตถาร ซึ่งข้อมูลจากจิตแพทย์ทราบว่าบุคคลเหล่านี้จะมีลักษณะเหมือนบุคคลทั่วไป ใช้ชีวิตปกติไม่ทำตัวมีพิรุธ จะทราบได้ก็ต่อเมื่อมีสิ่งเร้า ยากจะสังเกตความแตกต่าง





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผบช.ภาค 7 รับคดียาก ไม่พบลายนิ้วมือโจรข่มขืนแม่เฒ่าในทะเบียนราษฎร อัปเดตล่าสุด 28 มกราคม 2558 เวลา 11:56:45 15,978 อ่าน
TOP