x close

รวบสาวประเภทสอง หลอกตุ๋นเงินนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นนับไม่ถ้วน ฉกเงินร่วม 10 ล้าน

นายอุทัย นันทะขันธ์
นายอุทัย นันทะขันธ์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          หน่วยคอมมานโด รวบ สาวประเภทสอง หลอกนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมานับไม่ถ้วน เชิดเงินมากกว่า 10 ล้าน ในระยะเวลากว่า 10 ปี อ้าง แค้นใจที่เคยถูกผู้ชายญี่ปุ่นหลอก

          เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดกองปราบปราม ได้เข้าจับกุมตัว นายอุทัย นันทะขันธ์ อายุ 40 ปี สาวประเภทสอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในคดีชิงทรัพย์และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ก่อให้ความเสียหายแก่ผู้อื่น ที่อพาร์ทเม้นท์ราชครู ภายในซอยสุขุมวิท 85 เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา หลังได้รับการประสานงานจากสถานทูตญี่ปุ่น ว่ามีผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นเข้ามาร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก

          ด้าน พ.ต.อ. สรายุทธ สงวนโภศัย รองผู้คับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาว่า จะเลือกเหยื่อเป็นนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ตามย่านเศรษฐกิจ อาทิ ซอยทองหล่อ อโศก สุขุมวิท สีลม และเข้าไปตีสนิทหลอกว่าตนเป็นนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ หรือไต้หวัน เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่กระเป๋าสตางค์หาย ไม่มีเงินติดตัว ขอให้เหยื่อช่วยติดต่อกับเพื่อนตามหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งเป็นหมายเลขที่ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อเหยื่อสงสารจะให้เงิน นายอุทัยกลับไม่ยอมรับเงิน พร้อมกับแจ้งเหยื่อว่า ได้ติดต่อกับครอบครัวที่ประเทศสิงคโปร์หรือไต้หวัน ให้โอนเงินมาให้ และขอใช้บัญชีธนาคารของเหยื่อชาวญี่ปุ่น ซึ่งนายอุทัย ได้ใช้วิธีหลอกโอนเงินทางตู้เอทีเอ็ม ว่าเงินได้โอนมาให้เหยื่อแล้ว ซึ่งเหยื่อจะเห็นยอดเงินที่โอนเข้ามา แต่ยังไม่สามารถใช้เงินได้ ต้องรออีก 3-5 วัน ทางเหยื่อชาวญี่ปุ่นก็หลงเชื่อ และได้ให้เงินสดไป แต่เมื่อครบกำหนดใช้เงินแล้ว กลับไม่มีการโอนเงินเข้ามา

          จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายอุทัย ได้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ผู้เสียหายหลายร้อยคน ได้เงินร่วมหลาย 10 ล้านบาท โดยนายอุทัย จะนำเงินที่ได้จากการหลอกหลวงในแต่ละครั้ง ไปเที่ยวเตร่ เลี้ยงเด็กผู้ชาย และซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

          ขณะที่ นายอุทัย ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาเหตุที่ทำให้ต้องก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว มาจากในช่วงที่ตนนั้นกำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 2 และได้ไปท่องเที่ยวกับผู้ชายชาวญี่ปุ่น จากนั้นถูกหลอกโดยปล่อยให้ตนอยู่ที่โรงแรมคนเดียว และต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงรู้สึกคับแค้นใจ นอกจากนี้ ตนยังเคยถูกจำคุกในคดีดังกล่าวมาแล้ว และภายหลังจากการพ้นโทษ ทางสถานทูตญี่ปุ่น ได้มีการโพสต์ข้อความและภาพของตน ในลักษณะแจ้งเตือนชาวญี่ปุ่นบ่อยครั้ง และไม่ยอมหยุด ตนจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงกลับมาลงมือก่อเหตุซ้ำอีก


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รวบสาวประเภทสอง หลอกตุ๋นเงินนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นนับไม่ถ้วน ฉกเงินร่วม 10 ล้าน อัปเดตล่าสุด 28 มกราคม 2558 เวลา 17:10:06 12,660 อ่าน
TOP