เปิดปากแท็กซี่โก่งราคา
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
สัมภาษณ์โชเฟอร์แท็กซี่โกงมิเตอร์ เริ่มต้น 75 บาท เจ้าตัวยอมรับผิด อ้างเบลอ ขับรถมาทั้งวันทั้งคืน ด้านผู้โดยสารญี่ปุ่น บอกไม่คิดจะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เอาเรื่อง อยากให้โอกาส
วันที่ 29 มกราคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า หลังจากที่ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง ที่เรียกเก็บค่าโดยสารกับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นเกินราคา อ้างว่าปรับราคาเริ่มต้นจาก 35 บาท เป็น 75 บาท เมื่อรถติดนาทีละ 2 บาท และราคานี้ก็เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 จนเป็นเหตุให้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้สั่งยกเลิกทะเบียนแท็กซี่คันนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ ทะเบียน มฎ 769 กทม. โดยมีจ่าสิบเอกอุดร ศาสนสุพิณ เป็นผู้ขับขี่ พร้อมห้ามนำรถเข้ามาในสนามบินสุวรรณภูมิตลอดไป มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2558 เป็นต้นไป
ด้านสนามบินได้สอบถาม จ่าสิบเอกอุดร ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง โดยหลังจากที่ตนเกษียณอายุราชการ ก็ได้หันมาขับแท็กซี่ประมาณ 1 ปี เมื่อวันเกิดเหตุวันที่ 26 มกราคม 2558 ตนได้รับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นจากสนามบินสุวรรณภูมิ ตนไม่ทราบว่ากดมิเตอร์ค้างเอาไว้เมื่อไหร่ ด้านผู้โดยสารก็บอกว่า ต้องการไปซอยนาทอง 7 รัชดาภิเษก เมื่อขับไปสักพัก ผู้โดยสารก็ถามว่าทำไมมิเตอร์ราคา 75 บาท ก็เลยมีการโต้เถียงกัน และเมื่อถึงปลายทาง ตนก็คืนเงินให้ 40 บาท ตนไม่มีเจตนาที่จะเก็บเงินเพิ่ม ที่เกิดขึ้นแบบนั้นเพราะตนเบลออยู่ ต่อไปคงขับแท็กซี่แถบชานเมืองใกล้บ้านแทน
"ผมเบลอไป ผมไม่ได้ปิดมิเตอร์ เราผิดไป ผมไม่ได้นอน ยอมรับสภาพตรงนี้จริง ๆ ไม่คดโกงใครทั้งนั้น อันนั้นเรายอมรับ และขอโทษผู้โดยสารทั้งหลาย แท็กซี่ไทยไม่มีคำว่าขี้โกง พยายามส่งผู้โดยสารอย่างดีที่สุด ทั้งสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ" จ่าสิบเอกอุดร กล่าว
ด้านคุณฮิโรยูกิ ฟุคุอิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น เผยว่า วันนั้นตนไปส่งครอบครัวกลับประเทศญี่ปุ่น ขาไปราคามิเตอร์ก็เริ่มต้นอยู่ที่ 35 บาท ขากลับเพิ่มขึ้นเป็น 75 บาท ตอนแรกตนก็คิดว่าขึ้นราคาจริง ๆ แต่ไม่แน่ใจ จึงไลน์ไปหาเพื่อน เพื่อนเลยบอกว่า 35 บาท เพื่อนจึงแนะนำให้ถ่ายทะเบียนรถ ทะเบียนคนขับ และอัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม แท็กซี่ก็ลดราคาให้ 40 บาท ไม่ใช่เริ่มต้น 75 บาทอย่างที่เข้าใจ เหตุการณ์นี้ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องการกดมิเตอร์ค้างเอาไว้นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะแท็กซี่ต้องมาต่อคิว เนื่องจากใช้เวลาพอสมควร หากรวมราคาเดิมกับที่ผู้โดยสารนั่งมาไม่น่าจะใช่ 75 บาท ส่วนการห้ามไม่ให้แท็กซี่ของ จ่าสิบเอกอุดร เข้ามาในสนามบินอีกนั้น ตนก็มองว่าเป็นบทลงโทษที่แรงไป อยากให้โอกาสเขาได้ทำมาหากินกับอาชีพนี้อีกครั้ง เพราะถ้าไม่นับเรื่องมิเตอร์ก็ถือว่า จ่าสิบเอกอุดร ให้บริการดี สร้างความประทับใจแน่นอน
"เขาเองก็ไม่โมโห ไม่ว่า เขาชอบคนญี่ปุ่น ผมอยู่ที่นี่มา 6 ปี ใช้สนามบินตั้งแต่มาทำงาน อยากให้โอกาสแท็กซี่ ผมไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผมไม่อยากให้เขาหยุดขับรถ ให้เขากลับมาขับแท็กซี่เหมือนเดิม"
ด้านกรมขนส่งทางบก เตรียมเรียกจ่าสิบเอกอุดร ศาสนสุพิณ เข้ามารายงานตัววันนี้ หากสอบสวนแล้วพบความผิดจริง ก็จะเรียกปรับไม่เกิน 5,000 บาท ฐานเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด และนายทะเบียนมีอำนาจพิจารณาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตในทันที
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
