สตช. เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้อง ถกบูรณาการลดจุดเสี่ยง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รอง ผบ.ตร. ปป2 เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน หลังพบคดีสะเทือนขวัญถี่ขึ้น
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ. เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร. ปป2) เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการจัดระเบียบสังคมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่เสี่ยงหรือล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามนโยบาย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในระยะต่อเนื่อง และระยะขยายผล โดยมี รอง ผบช.น. ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และ ผบก.น.1-9 รวมทั้งผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต และการไฟฟ้านครหลวง 18 เขตในพื้นที่ กทม. เข้าร่วมในการประชุม
พล.ต.อ. เรืองศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้กำหนดให้เรื่องการป้องกันความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจึงเป็นมาตรการหลัก โดยกำชับให้เจ้าที่ทุกนายเดินหน้าการป้องกันอาชญากรรม โดยกำหนดเป้าหมายให้เจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็วที่สุดหลังจากได้รับแจ้งเหตุ รวมไปถึงการประสานงานกับหน่วยต่าง ๆ ให้มีการเตรียมความพร้อมในการออกบริการประชาชนโดยเร็ว เพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และเตรียมความพร้อมของประเทศโดยเฉพาะปัจจุบันเป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทยและก็จะก้าวเข้าสูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี
โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาล ที่มีเป้าหมายให้มีการจัดระเบียบสังคมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงหรือล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์แวดล้อมทางกายภาพโดยการเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่าง และกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันอาชญากรรม ตลอดจนลดแรงจูงใจในการกระทำความผิด โดยในระยะเร่งด่วน กทม. ได้ดำเนินการร่วมกับ ก.ฟ.น. ดำเนินการติดตั้งไฟส่องสว่างเสร็จสิ้นครบถ้วนแล้ว 279 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งซีซีทีวี ให้ครบทุกจุด โดยการประชุมวันนี้จะมีการพิจารณากำหนดเพิ่มจุดเสี่ยงในระยะต่อเนื่องอีกกว่า 300 จุด
ทั้งนี้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะเป็นการทำงานควบคู่กับการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบว่าในระยะเวลา 1 เดือน ที่ปฏิบัติงานมาพบปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง ซึ่งหากพบจะมีการแก้ปัญหาในทันที โดนเริ่มจากเมืองหลวง และขยายออกไปสู่ปริมณฑล 5 จังหวัด อาทิ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และนครปฐม นอกจากนี้ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. จะมีการตั้งหน่วยดูแลการกระทำผิดที่เกิดกับโลกไซเบอร์ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีการโซเชียลมีเดียติดต่อกันเกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากรายงานสถานภาพและแนวโน้มอาชญากรรม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าที่ผ่านมาคดีอุกฉกรรจ์ ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ เรียกค่าไถ่ และวางเพลิง ในปี พ.ศ. 2557 เกิดขึ้นทั่วประเทศ จำนวน 4,286 คดี เปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2556 ที่เกิดขึ้น 4,857 คดี ลดลง 571 คดี ( 11.76 %) โดยพื้นที่ที่รับแจ้งมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดชายแดนใต้ จากข้อมูลดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนรับมือให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้พฤติกรรมของคนร้ายในการก่ออาชญากรรมมีหลากหลายมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา