เด็กสาวกลับสู่อ้อมอกพ่อแม่ หลังถูกลักพาตัวนาน 9 ปี ใช้เน็ตเป็นตัวช่วย
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก news.163.com
เด็กสาววัย 15 กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่อีกครั้ง หลังถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ 6 ขวบ แต่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นตัวช่วยหาทางกลับบ้าน
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวชีวิตจริงสุดดราม่าของเด็กสาววัย 15 ปี ชาวจีน ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์ลักพาตัวไปขายให้กับครอบครัวใหม่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แต่สุดท้ายหาทางกลับบ้านได้ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก แม้ว่าจะจดจำได้แค่ชื่อหมู่บ้านที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่านั้น
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2548 เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ ได้ถูกชายหญิงคู่หนึ่งลักพาตัวไปขณะกำลังเดินอยู่นอกโรงเรียน จากนั้นเธอก็ถูกขายให้กับครอบครัวใหม่ที่อยากมีลูก นับตั้งแต่นั้นเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ โดยที่ยังโหยหาพ่อแม่แท้ ๆ ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่พออธิบายให้พ่อแม่อุปถัมภ์ฟัง พวกเขากลับไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย เพราะฟังคำพูดของชายหญิงที่นำเธอมาขายให้มากกว่า
ส่วนด้านพ่อแม่แท้ ๆ หลังจากที่ลูกหายไปก็ได้มีการติดประกาศทั่วหมู่บ้าน แต่วันแล้ววันเล่าก็ไม่มีหวัง พวกเขาแทบจะถอดใจ เลิกล้มความพยายามที่จะตามหาลูก
กระทั่งเมื่อเด็กหญิงเติบโตขึ้น รู้ประสีประสา เธอก็พยายามถามไถ่กับใครต่อใครว่ารู้จักชื่อหมู่บ้านของเธอไหม แต่ก็ไม่มีใครรู้สักคน จนวันหนึ่ง เธอเองได้อ่านเรื่องราวของชายอินเดียคนหนึ่งที่หลับบนรถไฟแล้วพรากครอบครัวตัวเองไปนานกว่า 26 ปี แต่ก็สามารถกลับมาหาครอบครัวได้ด้วยกูเกิล เอิร์ธ เธอก็เลยปิ๊งไอเดีย ประกาศผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กว่ามีใครรู้จักหมู่บ้านที่เธอจากมาหรือไม่
เดชะบุญมีผู้หญิงคนหนึ่งรู้จักหมู่บ้านดังกล่าวเป็นอย่างดี แถมรู้ด้วยว่าครั้งหนึ่งเคยมีพ่อคนหนึ่งประกาศตามหาลูกสาวด้วย ก็เลยเข้ามาคุยกับเธอทันที และหญิงคนนี้ก็กลายเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารระหว่างพ่อกับลูก
หลังจากทางครอบครัวแท้ ๆ รู้ว่าลูกสาวตัวเองยังมีชีวิตอยู่และถูกลักพาตัวไป พ่อก็ได้แจ้งตำรวจเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ และในที่สุด เด็กหญิงที่พลัดพรากจากครอบครัวไปนานกว่า 9 ปี ก็กลับสู่อ้อมอกครอบครัวของตัวเองอีกครั้ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจจีนได้จับกุมนางหวัง ลี่ และนายหวัง หงหลิน สองสามีภรรยาที่ลักพาตัวเด็กหญิงไปขายให้กับคนอื่น ซึ่งพวกเขาก็จะได้รับโทษสำหรับการก่อเหตุพรากลูกพรากพ่อแม่ครั้งนี้อย่างสาสม ขณะที่ครอบครัวอุปถัมภ์ที่ซื้อเด็กไปนั้น ก็ได้แต่บอกว่าพวกเขาน่าจะเชื่อคำพูดของเด็กตั้งแต่แรก ไม่น่าหลงเชื่อคำพูดของสองสามีภรรยาที่ขายเด็กให้เลย
