พ.ต.อ. ณษ เศวตเล (แฟ้มภาพ)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คืบหน้าคดียักยอกทรัพย์ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สจล. ด้าน 3 ธนาคารเริ่มตรวจสอบเอกสารสำคัญ ล่าสุดเร่งตามตัวนายกิตติศักดิ์แล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 30 มกราคม 2558 พ.ต.อ. ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) 1,474 ล้านบาท พร้อมด้วย พ.ต.อ. กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าทีมสืบสวนคดีดังกล่าว ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน รวมทั้งประสานเชิญผู้แทนธนาคารไทยพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง และอัยการฝ่ายต่างประเทศ เพื่อติดตามความคืบหน้า ประมวลข้อมูล และกำหนดแนวทางการดำเนินคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาในประชุมเกือบ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
พ.ต.อ. ณษ เผยภายหลังการประชุมว่า ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เนื่องจากเอกสารที่ได้มา มีจำนวนมากพอสมควร ก็ได้เชิญทางเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกรณีของการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ส่วนอะไรที่ยังขาดหรือต้องการเพิ่มเติม ก็จะมีการประสานขอความร่วมมือกันต่อไป ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี คิดว่าภายในสัปดาห์หน้า เอกสารต่าง ๆ ก็น่าจะครบถ้วนสมบูรณ์
นอกจากนี้ ยังมีทางพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ ได้เข้ามาชี้แนะถึงขั้นตอนการทำเรื่องนำตัวนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญในคดี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งเมื่อมาทำงานร่วมกันแล้ว การดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ น่าจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ล่าช้า โดยนายกิตติศักดิ์ นั้น ทราบว่ายังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ส่วนเรื่องเงินที่มีกระแสข่าวว่ามียอดเพิ่มเข้ามา ขณะนี้ยังตรวจสอบไม่พบ รวมทั้งกรณีที่มีการระบุว่า มีดาราจากภาพยนตร์เรื่องสตรีเหล็ก เข้ามาเกี่ยวข้อง ตนยังไม่ได้รายงานหรือมีข้อมูลในส่วนนี้แต่อย่างใด
รอง ผบก.ป. เผยว่า ในส่วนของนายศรุต ราชบุรี อาจารย์ของสถาบันฯ ซึ่งมีชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีโดยได้รับการโอนเงินจากนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ จำนวน 55 ล้านบาท นั้น ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการนำหลักฐานเข้ามาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนี้ก็มีพยานอีก 2-3 ปาก ที่นัดหมายเข้ามาพบพนักงานสอบสวนโดยทางเจ้าหน้าที่สถาบันฯ เป็นผู้พามา ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นพยานที่มีประโยชน์ต่อรูปคดี หลังจากเราได้เอกสารต่าง ๆ มาแล้ว
พ.ต.อ. ณษ ยังได้เปิดเผยถึงกรณีการประสานกับตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในการสืบสวนติดตามจับกุมนายกิตติศักดิ์ ว่า อำนาจหน้าที่ของเราไม่ถึงจุดนั้น เพราะเป็นเรื่องของอัยการระหว่างประเทศที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งทางตนทำได้เพียงติดตามว่านายกิตติศักดิ์ อยู่ที่ไหน แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ขอยืนยันว่าทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ส่วนขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดเพราะในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ก็จะมีการประชุมคณะใหญ่ร่วมกับทางอัยการสูงสุด ผบ.ตร. ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ กรณีการยึดทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี รอง ผบก.ป. เผยว่า ได้มีการประสานงานกับทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ตลอดเวลา และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ทาง ปปง.จะเข้าร่วมประชุมกับอัยการด้วย แต่ตอนนี้ทั้งทางธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้ง 3 แห่ง ได้เข้ามาตรวจดูเอกสารร่วมกันแล้ว ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในแต่ละส่วนที่ต้องตรวจสอบหลักฐาน จนทำให้รู้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง และเกี่ยวข้องแค่ไหน เพียงใด ก่อนจะมีการสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องคดีต่อไป โดยต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 หลังเดือนจากนี้ แต่ทันกำหนดผลัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาในคดีอย่างแน่นอน
ติดตาม ข่าวกิตติศักดิ์ มัทธุจัด แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
