นายสุรพงษ์ กองจันทึก (แฟ้มภาพ)
คนไทยพลัดถิ่น เข้ายื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและพวกอีก 4 คน ข้อหาตัดสิทธิ์ความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ยันมีประวัติการตั้งถิ่นฐานยาวนานกว่า 150 ปี
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ ตัวแทนกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย กลุ่มคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย และกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย ที่ถือบัตรประจำตัวบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน จากอำเภอแม่ระมาด และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ และคณะทนายความ เดินทางมายื่นฟ้อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ต่อศาลปกครองกลาง ในข้อหาพิจารณาไม่รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 351 คน และไม่ถูกต้องชอบธรรมกับประวัติศาสตร์ของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นในพื้นที่แม่สอดไปจนถึงเมียวดี จังหวัดตาก จนทำให้กระทบต่อสิทธิในสถานะบุคคลของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดตากทั้งหมด ขณะเดียวกันการกระทำดังกล่าวยังเป็นการขัดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ซึ่งคำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลบังคับในขณะที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย
ทั้งนี้ จึงขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่มีมติไม่ให้กลุ่มผู้เดินทางเข้ามาฟ้องคดี มีคุณสมบัติเป็นคนไทยพลัดถิ่นตามกฎหมาย พร้อมกับมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีและคนไทยพลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อไทยในจังหวัดตาก ทั้งหมดมีสถานะเป็นคนไทยพลัดถิ่น
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การที่ รมว.มหาดไทยและพวกทั้ง 4 คน มติพิจารณาไม่รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นของชาวไทยพลัดถิ่น 351 คนนั้น เป็นการพิจารณาที่ผิดพลาดคาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีข้อมูลงานศึกษาว่า กลุ่มคนไทยพลัดถิ่นในฝั่งเมียวดีมีวิถีชีวิตแบบไทยเหนือ มีประวัติการตั้งถิ่นฐานมายาวนานถึง 150 ปี โดยการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นพื้นที่ อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด และ อ.พบพระ ทั้งหมด ที่ต้องถูกตัดสิทธิโดยชอบธรรมทางกฎหมายอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องเดินทางมาวันนี้เพื่อขอความเป็นธรรมกับศาลปกครอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
