ช็อก หญิงอังกฤษถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืน-ทารุณ จนท้องถึง 3 ครั้ง และบังคับทำแท้ง
ขอขอบคุณประกอบจาก bestdaily.co.uk
ช็อก หญิงอังกฤษถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืน-ทารุณกรรมตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จนท้องถึง 3 ครั้งและถูกบังคับให้ทำแท้ง
วันที่ 29 มกราคม 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ มีรายงานว่า จูดี้ แวน นีเคิร์ก สาวอังกฤษวัย 46 ปี ได้ออกมาบอกเล่าถึงประสบการณ์อันแสนเลวร้ายที่ผ่านเขามาในช่วงชีวิตวัยเด็กของเธอ เมื่อเธอได้ถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ทั้งยังถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ถึง 3 ครั้ง และถูกบังคับให้ทำแท้ง นับตั้งแต่ตอนที่แม่หนีออกจากบ้านไปเพราะทนเป็นกระสอบทรายให้พ่อไม่ไหว
จูดี้ เปิดเผยว่า ไม่ว่าใครต่างก็มีความทรงจำแสนสุขในช่วงวัยเด็ก และเธอเองก็เช่นกัน พ่อที่แสนดีมักจะสอนเธอว่ายน้ำและพาออกไปปิกนิก จนกระทั่งทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อแม่หนีออกจากบ้านขณะที่เธอมีอายุเพียง 6 ขวบ พ่อไม่อนุญาตให้เธอไปโรงเรียน บังคับให้เธอต้องทำงานบ้านและเลี้ยงดูน้อง ๆ 5 คน ต้องตื่นแต่เช้ามาทำอาหารและทำข้าวกล่องสำหรับมือกลางวัน ซักผ้าด้วยมือ จากนั้นพ่อก็บังคับให้เธอที่เหนื่อยล้าอยู่เป็นเพื่อนเขาจนเข้านอน โดยบังคับให้เธอนอนร่วมเตียงกับเขา ก่อนจะลวนลามและข่มขืนเธอที่ยังเป็นเด็กเล็ก ทิ้งให้เธอรู้สึกสับสนและไร้ค่าโดยสิ้นเชิง
นับจากนั้นพ่อก็ยังคงทำร้ายและล่วงละเมิดเธออย่างต่อเนื่อง พ่อมักจะใช้มีดขู่บังคับเธอ โดยที่น้อง ๆ ไม่เคยเห็นในสิ่งที่เขาทำ กระทั่งไม่นานเธอก็ตั้งครรภ์ แต่ก็ยังถูกบังคับให้ทำงานหนักจนแท้ง จากนั้นในตอนที่เธออายุ 13 ปี พ่อที่โกรธเกรี้ยวก็ขู่ว่าจะยิงเธอ จนวันหนึ่งในปีต่อมาเขาก็ยิงเธอเข้าที่หน้าอกจนเพื่อนบ้านต้องช่วยนำเธอส่งโรงพยาบาล แต่พ่อก็บอกกับตำรวจว่าเธอยิงตัวเอง
ในช่วงเวลาที่โหดร้ายเหล่านั้น ครอบครัวของเธอมักจะย้ายบ้านบ่อย ๆ ทำให้ไม่มีเพื่อนบ้านที่สนิทสนม เธอไม่มีเพื่อนที่สามารถไว้ใจได้เพราะไม่ได้ไปโรงเรียน และในตอนที่อายุ 14 ปี เธอก็ตั้งภรรค์อีกครั้ง พ่อที่โกรธจัดจึงต่อยเข้าไปท้องเธอก่อนจะใช้ไม้แขวนเสื้อแทงเข้าไปในช่องคลอดเพื่อทำให้เธอแท้ง และอีกสองปีต่อมาเขาก็พาเธอที่ตั้งครรภ์เป็นครั้งที่ 3 ไปทำแท้งที่คลินิก
เธอถูกพ่อล้างสมองให้รู้สึกผิดที่ปล่อยให้ตัวเองตั้งครรภ์ ก่อนที่จากนั้นเธอจะหนีออกมาบ้านมาในตอนที่อายุ 20 ปี จากนั้นเธอก็ได้พบกับรักแรกคือ โทนี่ ที่ได้กลายมาเป็นสามีของเธอในขณะนี้ ซึ่งเขาก็แนะนำให้เธอนำเรื่องราวทั้งหมดเข้าแจ้งความ จนพ่อถูกจับกุมในปี 2543 และถูกตัดสินใจจำคุกนาน 15 ปี
อย่างไรก็ตาม ในอีก 4 ปีต่อมา เธอก็ได้รับการติดต่อจากตำรวจว่าพ่อของเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด และกำลังจากเสียชีวิต ซึ่งแม้ว่าเธอจะหวาดกลัวแต่ก็ตัดสินใจที่จะไปหาพ่อ ก่อนจะบอกพ่อว่าเธอรักและให้อภัยแก่เขาแล้ว เธอรู้สึกดีที่ได้พบพ่อเป็นครั้งสุดท้าย และทำให้เธอรู้สึกสงบใจได้แล้วในเวลานี้
