เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5
ชูวิทย์ ชี้ สวนโมกข์ตอนนี้เป็นแหล่งชุมนุมพระการเมือง วอน อย่านำมาปนกับศาสนาเลย ไปทำแบบเนวินจะดีกว่า
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2558 เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. พรรครักประเทศไทย มีการเขียนข้อความเรื่องการเมืองกับศาสนาว่า ปัจจุบันนี้ มีคนทางการเมือง นำศาสนาบังหน้า หากินนำเงินบริจาคเข้ากระเป๋าตัวเองไปแล้ว อีกทั้งสวนโมกข์ตอนนี้ก็เป็นแหล่งชุมนุมของพระทางการเมือง
สำหรับรายละเอียดทั้งหมด มีดังนี้
การเมืองกับศาสนา
โลกของการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ต่อสู้แย่งชิงอำนาจ แตกต่างจากโลกของพุทธศาสนาที่เต็มไปด้วยความสงบ ร่มเย็น สันโดษ อย่างสิ้นเชิง
พุทธศาสนิกชนทั่วไปย่อมรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้ง เมื่อมีคนนำเอาพุทธศาสนาไปบังหน้า เอาสีกาเข้ากุฏิ แอบแฝงไปหากินเอาเงินบริจาคเข้าย่ามตัวเอง
"สวนโมกข์" ที่ชาวบ้านเรียกชื่อกันจนติดปาก มีชื่อทางการว่า "วัดธารน้ำไหล" อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกค้นพบและจัดตั้งขึ้นโดย "ท่านพุทธทาสภิกขุ" มีปณิธานอันแน่วแน่ มุ่งมั่นปฏิบัติธรรม ออกเสาะหาสถานที่ปลีกวิเวก สงบร่มเย็น จนได้มาพบกับสถานที่แห่งนี้ และตั้งชื่อว่า "สวนโมกขพลาราม" แปลว่า "สวนป่าอันเป็นกำลังแห่งความหลุดพ้น"
แต่บัดนี้สวนโมกข์แทบจะกลายเป็นสถานที่ชุมนุมของพรรคการเมือง ที่เริ่มต้นด้วยพระสุเทพ และตามมาด้วยสมาชิกพรรค อดีต ส.ส. ที่อุตส่าห์ดั้นด้นจากบ้านเกิดเมืองนอนมาบวชเคียงข้างพระสุเทพ
อย่าทำให้สวนโมกข์แปรสภาพเป็นสาขาของพรรคการเมืองเลย เพราะการเมืองกับธรรมะมันแตกต่างกัน
สวนปฏิบัติธรรมอันแสนสงบควรปลอดจากเรื่องการเมือง
หากตั้งใจบวชให้สงบก็อนุโมทนาสาธุ แต่หากจิตยังไม่นิ่ง สวนโมกข์ก็จะกลายเป็นที่ชุมนุมพระการเมืองไปเสียเปล่า ๆ ไปตั้งทีมฟุตบอล สร้างสนามแข่งรถเหมือนคุณเนวินยังดีเสียกว่า
