ชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊ก บอก คสช. อย่ามัวแต่เรียกฆราวาสไปปรับทัศนคติเลย ควรเรียกพระนักเลงที่ออกอาละวาดไปด้วย ชี้ ธัมมชโย วัดธรรมกาย จะถูกหรือผิดเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินตามกฎเกณฑ์ของศาสนา
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 ถึงกรณีที่พระพุทธะอิสระ นำมวลชนเดินทางไปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พร้อมเชิญชวนให้คว่ำบาตรมติของมหาเถรสมาคม ในประเด็นวัดพระธรรมกาย ว่า นี่คือตัวอย่างของคนที่ไม่รู้จักเคารพกฎกติกาของสังคม โดยตนมองว่าเรื่องของธัมมชโยจะถูกหรือผิดเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินตามกฎเกณฑ์ของศาสนา ไม่ใช่เที่ยวปลุกระดมคนมีจริตให้ออกมาสู้
นายชูวิทย์ ยังระบุด้วยว่า อยากให้ คสช. เรียกพระบางรูปไปปรับทัศนคติด้วย โดยมองว่า เรื่องการเมืองยังไม่ทันจะคลี่คลาย ยังมีพระนักเลงเที่ยวออกอาละวาดอีก ดังข้อความต่อไปนี้
"ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก
นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของพวกไม่รู้จักเคารพกฎกติกาของสังคม เป็นเรื่องยากที่จะอยู่ร่วมกับคนที่ชอบตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลาง ขยายอัตตาใหญ่โตเท่าภูเขา และมองคนอื่น ๆ ตัวเล็กเหมือนก้อนกรวด
ธัมมชโย วัดธรรมกาย จะถูกหรือผิดเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินตามกฎเกณฑ์ของศาสนา แต่หากพุทธะอิสระตั้งตัวเป็นความถูกต้อง ปล่อยให้กิเลสของตัวเองแตกซ่าน แล้วเที่ยวปลุกระดมคนมีจริตให้ออกมาสู้ คงไม่แคล้วต้องตัดสินกันที่ "มวลมหาฆราวาส" ว่าใครมีเยอะกว่าใคร ผลสุดท้ายก็พังกันเป็นแถบ ๆ
การเมืองกับศาสนาเหมือนกันที่ความเชื่อและความศรัทธา
ตอนเรื่องบ้านเมืองก็สวมวิญญาณนักการเมืองเดินนำม็อบ พอจบการเมืองก็คืนร่างพระเที่ยวปลุกระดม สันดานอันธพาลนี่มันเลิกยากเสียจริง ๆ
คสช. อย่ามัวแต่เรียกฆราวาสไปปรับทัศนคติเลย พระบางรูปก็ต้องปรับทัศนคติโดยด่วนเหมือนกัน เรื่องการเมืองยังไม่ทันจะคลี่คลาย ยังมีพระนักเลงเที่ยวออกอาละวาดอีก
โบราณเขาบอก "ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก"
เอาศาสนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างนี้ก็ฉิบหายล่ะญาติโยมเอ๋ย"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5