จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขณะนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและ พระสุเทพ ขณะนั้นคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เมื่อปี 2553 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [ อ่าน มาร์ค-พระสุเทพ ไม่รอด ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาคดีสลายม็อบ ปี 53 คลิก ]
โดยกรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายยกรัฐมนตรี ที่เวลานั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก รวมอยู่ด้วย ให้มาเป็นพยาน หลังจากที่ ป.ป.ช. รับฟ้องกรณีดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ (26 กุมภาพันธ์ 2558) ว่า หากให้ตนไป ก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าไปได้ก็ไป ขณะนี้ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล แต่อาจจะไปด้วยตัวเองหรือชี้แจงด้วยเอกสารก็ทำได้ ทั้งนี้ ป.ป.ช. มักถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ตนก็ยืนยันว่า ป.ป.ช. ให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมถามกลับว่า ทำไมเรื่องนี้ไม่บอกว่าเป็นการไล่ล่าอีกฝ่ายบ้าง แต่เรื่องนี้ใครทำผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย ใครแก้ข้อกล่าวหาได้ก็รอดไป
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมผู้รับผิดชอบหลัก หากใครเข้าข่ายก็จะได้รับการจ่ายเงินตามเกณฑ์ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้อนถามผู้สื่อข่าว ว่าในการชุมนุม ปี 2553 มีการใช้อาวุธจริงกับประชาชนหรือไม่ และมีชายชุดดำอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการประมูลโครงข่ายให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G ว่า รัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ขอดูกลไกและโครงสร้างก่อน รวมไปถึงต้องให้กฎหมายมีความพร้อมทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบจะเป็นผู้พิจารณา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
