ดีเอสไอ เตรียมสอบสหกรณ์ในวัดธรรมกาย หลังพบปล่อยกู้ทำบุญเกือบ 500 ราย เป็นเงินกว่า 230 ล้านบาท ชี้เชื่อมโยงกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2558) พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดตู้เซฟที่ยึดได้จาก บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด พบโฉนดที่ดินและหลักฐานที่เชื่อมโยงกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ล่าสุดได้เรียก พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าชุดตรวจสอบความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างสหกรณ์กับวัดพระธรรมกายเข้าพบแล้ว เพื่อวางแผนการสอบสวนขยายผล
โดยเฉพาะเส้นทางการถ่ายโอนโฉนดที่ดินจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ไปยังบุคคลอื่น ๆ ย้อนหลังไปก่อนที่ ปปง. จะเข้าตรวจค้นสหกรณ์เมื่อปี 2556 นอกจากนี้ยังต้องสืบสวนถึงความเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ที่ตั้งอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เนื่องจากข้อมูลในชั้นสืบสวนพบความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างกันอย่างชัดเจน
แหล่งข่าวของดีเอสไอ กล่าวว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี มีนายศุภชัยเป็นผู้บริหาร แต่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ เปิดไว้เพื่อฝากเงิน และจะให้เงินปันผลสูงกว่าดอกเบี้ยจากธนาคาร จากนั้นสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ จะนำเงินเหล่านี้ไปลงทุนในสหกรณ์ฯ มงคลเศรษฐี เพื่อให้นำเงินมาปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำอีกต่อหนึ่ง เมื่อตรวจงบดุลของสหกรณ์ฯ มงคลเศรษฐี พบว่ามีการปล่อยกู้ให้กับลูกศิษย์วัดเพื่อทำบุญกับวัดพระธรรมกายเกือบ 500 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 230 ล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ย้อนไปเมื่อปี 2552-2555 ได้ตรวจสอบพบว่า มีการสั่งจ่ายเช็คจากนายศุภชัย ไปให้สหกรณ์ฯ มงคลเศรษฐี จำนวน 3 ครั้ง เป็นเงิน 46.5 ล้านบาท และยังพบการโอนเงินให้พระธัมมชโย 225 ล้านบาท พระวิรัช 100 ล้านบาท พระปลัดวิจารณ์ 119 ล้านบาท พระมนตรี 100 ล้านบาท รวมถึงนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล กรรมการบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด อีก 127 ล้านบาท ซึ่งนายสถาพร เคยบวชเป็นพระอยู่ที่วัดพระธรรมกายนานกว่า 20 ปี
นอกจากนี้พบว่านายศุภชัย เคยมีตำแหน่งเป็นไวยาวัจกรของวัดแห่งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนหัวหน้าชุดสอบสวนสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ชุดเดิม ในประเด็นการประวิงคดีและการไม่สั่งฟ้อง นายจิรเดช วงเพียงกุล และนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ที่มีชื่อรับโอนเงินจากนายศุภชัย ประมาณ 2,500 ล้านบาทด้วย
ภาพจาก dmc.tv
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
