ตำรวจวอนหยุดแชร์ กรณีการเปรียบเทียบคดี ลุงเฉลียว กับดาราดัง คดีรับซื้อของโจร ยันลุงเฉลียวไม่ได้ติดคุกจริง และไม่ได้ฐานะยากจน เพียงแต่มีร่างกายพิการเท่านั้น
จากกรณีที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์เปรียบเทียบระหว่าง คุณลุงเฉลียว ที่ขาพิการถูกจับในคดีรับซื้อของโจรจนต้องออกมาประกาศหาผู้รับเลี้ยงดูบุตรสาว กับ บอย ปกรณ์ ดารานักแสดง ที่รับซื้อรถแลมโบกินี่ ของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นั้น ล่าสุดวันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า พ.ต.อ. อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก. สภ.เมืองอ่างทอง และชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น ได้ออกมาร้องขอให้หยุดแชร์กรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเข้าใจผิด คดีของคุณลุงเฉลียว มีความชัดเจนว่ารับซื้อของโจร และคุณลุงก็ไม่ได้ติดคุกแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พ.ต.อ. อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก. สภ.เมืองอ่างทอง ได้เปิดเผยว่า กรณีนี้เป็นการเข้าใจผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รังแกคนจน หรือคนพิการ อยากขอความเป็นธรรม เนื่องจากตอนที่มีกระแสข่าวออกมาช่วงแรกนั้น ตนไม่อยากออกมาโต้แย้ง เพราะเกรงว่าคุณลุงจะได้รับความเสียหาย ซึ่งข้อเท็จจริงในคดีนี้มีความชัดเจนเป็นอย่างมาก คุณลุงรับซื้อเหล็ก 40 กิโลกรัม ที่วัยรุ่นขโมยมาขายในยามวิกาลถึง 4 ครั้ง โดยได้แจ้งข้อหาคุณลุงแล้วปล่อยตัวกลับไป ไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด และคุณลุงไม่ได้มีฐานะยากจนเพียงแต่มีร่างกายที่พิการเท่านั้น
ขณะที่ ชาวบ้านในละแวกนั้น เล่าว่า สิ่งที่นำเอาไปแชร์กันทำให้เกิดความเข้าใจผิด จริง ๆ แล้ว คุณลุงมีรายได้วันละ 500-1,000 บาท ไม่ได้เปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์อย่างเดียวแต่เปิดเป็นอู่ถึง 3 ห้อง ค่าเช่าเดือนละ 4,500 บาท รับซ่อมสิบล้อ ปะยาง มีอุปกรณ์ซ่อมรถราคาเป็นแสน และยังมีรถหกล้อเป็นของตัวเอง ซึ่งน่าชื่นชมที่คุณลุงพิการแต่มีความสามารถและทำมาหากิน ยกเว้นกรณีที่ไปรับซื้อของที่วัยรุ่นขโมยมา เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเตือนไปแล้ว แต่ยังรับซื้อและมีการเอาไปแชร์ว่าถูกรังแก
