x close

กรมพลศึกษา หวั่น จุฬาฯ ทุบสนามศุภชลาศัย เวนคืนที่ดิน

กรมพลศึกษา หวั่น จุฬาฯ ทุบสนามศุภชลาศัย เวนคืนที่ดิน

                      อธิบดีกรมพลศึกษา กังวลในประเด็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะทุบสนามศุภชลาศัย หรือไม่ หลังยื่นหนังสือให้กรมพลศึกษาย้ายออกไปจากพื้นที่ภายในเวลา 5 ปี

                   เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 นายพัฒนาชาติ กฤดิบวร อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวถึงประเด็นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีแผนที่จะทุบสนามศุภชลาศัยทิ้งหรือไม่ หลังจากที่ได้ทำหนังสือให้กรมพลศึกษาต้องย้ายออกภายในระเวลา 5 ปีนับจากนี้ จึงอยากให้ จุฬาฯ ชี้แจงกับสังคมให้ชัดเจนว่าจากนี้มีแผนดำเนินการอย่างไรต่อไปกับสนามที่มีความทรงจำมายาวนานถึง 81 ปี

                   โดยที่อธิบดีของกรมพลศึกษา ให้ความคิดเห็นว่า ทางเจ้าของพื้นที่อย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น่าจะเก็บสนามกีฬาแห่งชาติแห่งนี้ ต่อไป เพราะสนามศุภชลาศัยเป็นสนามที่มีประวัติศาสตร์และความทรงจำมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้มีเวทีในการสร้างเยาวชนของชาติรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต ถือว่าเป็นมรดกของชาติที่น่าจะเก็บเอาไว้

                   ทั้งนี้รายงานระบุว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้กรมพลศึกษาทำแผนการย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 5 ปี เบื้องต้นกรมพลศึกษายืนยันว่ายังไม่สามารถดำเนินการเรื่องแผนการย้ายได้ เนื่องจากเดิมกรมพลศึกษาประสานขอซื้อ เช่า ใช้ พื้นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ แต่ยังไม่มีหนังสือตอบกลับมาว่าจะให้ใช้พื้นที่ส่วนไหน

                   โดยปัญหาของกรมพลศึกษาขณะนี้คือ จุฬาฯ ได้ยึดพื้นที่คืนไปแล้วหลายส่วนเหลือเพียงอาคารนิมิตบุตร สระว่ายน้ำ สนามเทพหัสดิน และสนามศุภชลาศัย เท่านั้น ส่วนสนามจินดารักษ์และอาคารจันทรยิ่งยง ทางจุฬาฯ ก็ได้ยึดคืนไปแล้วทำให้ไม่สามารถจัดแข่งขันกีฬานักเรียนได้อย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลา 3 ปี

                   อนึ่ง สนามศุภชลาศัย เป็นสนามกีฬาหลัก มีลู่วิ่งสังเคราะห์ สำหรับจัดการแข่งขันกรีฑา ใช้ในการแข่งขันกีฬานัดสำคัญ มากมายไม่ว่าจะเป็นกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5, ครั้งที่ 6 และครั้งที่ 8 รวมไปถึงกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 13 อีกทั้งยังได้จัดการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติของไทย ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก, ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ และ ฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ลักษณะมีหลังคาหนึ่งด้าน พร้อมทั้งอัฒจันทร์โดยรอบ ปัจจุบันมีความจุผู้ชมรวม 20,000 ที่นั่ง มีชื่อเดิมว่า สนามกรีฑาสถาน ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 กรมพลศึกษา เปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบัน เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึง นาวาโท หลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษาคนแรก






อ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กรมพลศึกษา หวั่น จุฬาฯ ทุบสนามศุภชลาศัย เวนคืนที่ดิน อัปเดตล่าสุด 2 มีนาคม 2558 เวลา 16:13:27 18,036 อ่าน
TOP