เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2558 เว็บไซต์ abc.net.au รายงานว่า สารคดีเรื่อง India's Daughter (ลูกสาวของอินเดีย) ซึ่งถ่ายทำโดยนางสาวเลสลี อัดวิน นักทำสารคดีชื่อดังชาวอังกฤษ ถูกแบนไม่ให้ออกฉาย ซึ่งสารคดีนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักโทษที่รุมโทรมและฆ่านักศึกษาสาวอินเดียเมื่อปี 2012 จนกลายมาเป็นคดีอื้อฉาวที่ติดตามกันทั่วโลก โดยที่ไฮไลท์คือการสัมภาษณ์หนึ่งในนักโทษที่เกี่ยวกับคดีนี้ และเขาก็บอกเองว่า การที่ผู้หญิงถูกฆ่าข่มขืนนั้น ควรจะโทษที่ผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย
ทั้งนี้ นายเลสลี อัดวิน ได้เข้าไปสัมภาษณ์นายมูเกส สิงห์ หนึ่งใน 5 นักโทษจากคดีฆ่า-รุมโทรม เมื่อปี 2012 ที่คุกติฮาร์ ซึ่งนายมูเกสเอง ไม่ได้แสดงถึงความสำนึกผิดต่อการกระทำของตัวเองแม้แต่น้อย ทั้งที่เขาเองถูกคำสั่งให้รับโทษประหารชีวิตก็ตาม
จากการสัมภาษณ์ นายมูเกส สิงห์ กล่าวว่า เหยื่อวัย 23 ปีคนนี้ ไม่ควรที่จะออกไปไหนมาไหนตอน 3 ทุ่ม และเธอเองก็ควรรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น มากกว่าฝ่ายชายที่กระทำการอันรุนแรงต่อเธอ
ด้านนายราชนาถ สิงห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงครอบครัว กล่าวต่อวุฒิสภาว่า คำพูดของนายมูเกส สิงห์ ในสารคดีดังกล่าว ถือเป็นการสร้างความเสื่อมเสียและดูหมิ่นเกียรติ์ของสตรี ซึ่งเขาได้ออกแถลงหลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้งดฉายสารคดีเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ศาลเองก็ไม่ได้ให้เหตุผลที่แน่ชัด ต่อคำสั่งงดฉายสารคดี แต่มีเสียงแสดงความกังวลในอินเดียว่า การถ่ายทำสารคดีแบบนี้ จะทำให้ผู้ต้องหาคดีข่มขืนได้ มีช่องทางที่สามารถออกมาพูดแสดงความคิดเห็น
ด้านนายอนุ อกาห์ หนึ่งในสมาชิกรัฐสภา กล่าวว่า การแบนสารคดีนี้ไม่ใช่คำตอบ เราทุกคนควรเผชิญหน้ากับประเด็นที่ว่า ชายในอินเดียไม่ให้ความเคารพต่อผู้หญิง และไม่ว่าจะมีคดีข่มขืนเมื่อใด ก็จะมีการโทษฝ่ายหญิงเสมอ ในขณะที่นางสาวอัดวิน ผู้ถ่ายทำสารคดีนี้ กล่าวว่า ยิ่งคุณพยายามสั่งแบนสารคดีนี้มาเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุดประเด็นความสนใจของผู้คนมากเท่านั้น และตอนนี้ ทุกคนก็อยากจะดูสารคดีนี้แล้ว
คดีนี้เกิดขึ้น เมื่อนักศึกษากายภาพบำบัดวัย 23 ปี เสียชีวิต 13 วันหลังจากที่เธอถูกรุมโทรมและกระทำชำเราอย่างรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังนั่งรถเมล์กลับบ้านหลังจากดูหนังเสร็จ เหตุการณ์นี้ ได้สร้างความสะเทือนใจและกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก จนทำให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงในอินเดีย
