มาดู 15 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจจะไม่รู้ และเมื่อรู้แล้ว คุณจะเข้าใจความฝันของตัวเองมากยิ่งขึ้น
ความฝันคือหนึ่งในสิ่งที่มีความน่าสนใจ และเป็นประสบการณ์ที่ลึกลับที่สุดตั้งเท่าที่เราเคยมีมา โดยในยุคโรมัน ความฝันบางอย่างจะถูกส่งไปให้สภาเพื่อให้มีการตีความ เนื่องจากเชื่อว่าความฝันนั้น อาจจะเป็นสารจากพระผู้เป็นเจ้าก็เป็นได้ ความฝันบอกอะไรเราบ้าง แล้วความจริงเกี่ยวกับความฝันมีอะไรบ้าง วันนี้เว็บไซต์ boredpanda.com ได้รวบรวม 15 ความจริงเกี่ยวกับความฝัน มาฝากกันค่ะ
1. เรามักจะจดจำความฝันได้แค่ 10%
ภายในเวลา 5 นาทีที่เราเข้าไปในความฝันนั้น เราก็จะลืมความฝันทั้งหมด นั่นหมายความว่า เราจะจดจำเรื่องที่ฝันได้แค่ 10% และจะลืมเรื่องที่ฝันกว่า 90% เลยทีเดียว
2. คนตาบอดก็ฝันได้นะ
คนที่ตาบอดหลังจากที่เกิดมานั้น จะสามารถมองเห็นภาพต่าง ๆ ในความฝันได้ ด้วยเพราะพวกเขาเคยเห็นมาก่อน แต่สำหรับคนที่ตาบอดตั้งแต่กำเนิด และไม่เคยเห็นภาพอะไรเลย ก็มีความฝันเหมือนกันนะขอบอก โดยพวกเขาจะมีความฝันที่ชัดเจน แต่ความฝันของเขาจะเกี่ยวข้องกับประสาทสัมผัสส่วนอื่นเช่น เสียง รส สัมผัส และความรู้สึก
3. คนทุกคนฝัน ไม่มีใครที่ไม่ฝัน
ทุก ๆ คืนที่เข้านอน คนทุกคนต่างฝันทั้งนั้น ยกเว้นแต่คนที่มีปัญหาทางจิตอย่างรุนแรง และถ้าหากคุณปกติและคิดว่าตัวเองนอนหลับแล้วไม่ได้ฝันเลย นั่นแสดงว่าคุณหลงลืมความฝันของตัวเองต่างหาก ไม่ใช่ว่าไม่ฝันสักหน่อย
4. ในความฝัน เราจะเห็นแต่ใบหน้าของคนที่เราเคยเห็นมาแล้ว
สมองของเราจะไม่ได้สร้างใบหน้าต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่ ในความฝัน เราจะได้เห็นใบหน้าของผู้คนที่เราเคยเห็นมาแล้วในความเป็นจริง แต่เราอาจจะไม่รู้จักเขาหรือจำเขาไม่ได้ โดยที่ผ่านมา เราอาจจะเคยเห็นใบหน้าต่าง ๆ ของคนนับหมื่นนับพันตลอดช่วงชีวิต ดังนั้น เราจึงได้เห็นตัวละครที่มากหน้าหลายตาที่จะมาปรากฏตัวในความฝัน
5. ไม่ใช่ว่าทุกคนจะฝันและเห็นเป็นภาพสี
เชื่อหรือไม่ว่า กว่า 12% ของคนที่สายตาปกติ จะฝันออกมาเป็นภาพขาว-ดำ ส่วนที่เหลือนั้นจะฝันเป็นภาพสี โดยจากผลการศึกษาในปี 1915 ไปจนถึงช่วงปี 1950 ชี้ว่า คนส่วนมากจะฝันเป็นภาพขาว-ดำ แต่สถิตินี้เปลี่ยนไปในช่วงปี 1960
อย่างไรก็ดี ตอนนี้ มีเพียง 4.4% ของคนที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ที่ฝันเป็นภาพขาว-ดำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ อาจจะเกิดมาจากการที่ภาพยนตร์และโทรทัศน์ เปลี่ยนจากภาพขาว-ดำมาเป็นภาพสีก็เป็นได้
6. ความฝันอาจจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง
หากคุณฝันเกี่ยวกับบางเรื่องที่คุณเองก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับอะไร นั่นอาจจะหมายความว่า ความฝันกำลังสื่อความหมายบางอย่าง ไม่ว่าจะความฝันของคุณจะแสดงสัญลักษณ์อะไร มันอาจจะมีความหมายอีกอย่างซ่อนอยู่ก็ได้
7. เราจะวิตกกังวลในความฝันบ่อย ๆ
อารมณ์ที่มักจะเกิดขึ้นเป็นปกติในความฝันคือ ความวิตกกังวล และเมื่อเราฝัน เราจะพบเห็นอารมณ์ในด้านลบมากกว่าอารมณ์ในด้านบวก
8. โดยปกติแล้ว มนุษย์ฝัน 4-7 เรื่องในคืนเดียว
โดยปกติแล้ว คุณอาจจะฝันถึงเรื่องอะไรก็ได้ เป็นระยะเวลา 1 หรือ 2 ชั่วโมงทุกคืน แล้วไปฝันเรื่องอื่น ทำให้ใน 1 คืน คุณอาจจะมีความฝันเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ มากถึง 4-7 เรื่องเลยทีเดียว
9. สัตว์เองก็ฝันเช่นกัน
ผลจากการศึกษาในสัตว์หลาย ๆ ชนิด ได้แสดงให้เห็นว่าคลื่นสมองของสัตว์และมนุษย์มีความคล้ายคลึงกันในระหว่างที่หลับฝัน เช่น ลองดูสุนัขหรือแมวเหมียวเวลาหลับก็ได้ คุณจะเห็นอุ้งเท้าของมันขยับเหมือนมันกำลังจะวิ่ง หรือทำเสียงครางเหมือนกับมันพยายามไล่ตามบางอย่างในความฝัน
10. ร่างกายของเราจะเป็นอัมพาตชั่วขณะเมื่อฝัน
Rapid eye movement หรือ REM คือขั้นของการนอนฝัน มีที่มาจากการเคลื่อนไหวของดวงตาอย่างรวดเร็ว ในชั้น REM ของผู้ใหญ่นั้น จะใช้เวลาฝันทั้งสิ้นกว่า 20 - 25% ของระยะเวลาที่นอนทั้งหมด หรือประมาณ 90 - 120 นาที
ในระหว่างอยู่ในชั้น REM ร่างกายของมนุษย์จะเป็นอัมพาตชั่วคราว ซึ่งถือเป็นกลไกการทำงานของสมองที่สั่งไม่ให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนใด ๆ เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่กลไกนี้อาจจะทำงานก่อน ระหว่าง หรือหลังจากการนอนปกติในขณะที่สมองตื่นตัวอยู่ก็เป็นได้
11. ความฝันจะรวมเอาสิ่งที่เกิดขึ้นจริงขณะนั้น รวมเข้ากับความฝัน
ในจิตใจของคนเราจะมีการแปลสิ่งกระตุ้นภายนอก ที่เราสัมผัสได้ในขณะที่เราหลับ และทำให้สิ่งกระตุ้นนั้น กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความฝัน นั่นหมายความว่า ในบางครั้ง ในความฝันของเรา เราอาจจะได้ยินเสียงที่เป็นเสียงที่เกิดขึ้นขณะนั้นจริง ๆ และเราจะรวมเอาเสียงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความฝันด้วยก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังหลับก็ได้ คุณอาจจะฝันว่าคุณอยู่ในคอนเสิร์ต เนื่องจากมีคนกำลังเล่นกีตาร์ใกล้ ๆ เป็นต้น
12. ความฝันของผู้ชายและผู้หญิงนั้นแตกต่างกัน
ผู้ชายส่วนมากจะฝันถึงเพศชายด้วยกันเอง โดยกว่า 70% ของตัวละครในความฝันของผู้ชาย คือ เพศชาย ในขณะที่ในความฝันของผู้หญิงนั้น จะมีตัวละครผู้หญิงและผู้ชายในสัดส่วนที่เท่า ๆ กัน และนอกจากนี้ ผู้ชายโดยส่วนใหญ่ จะมีอารมณ์รุนแรงในความฝันมากกว่าผู้หญิง
13. ความฝันคือลางบอกเหตุ
จากผลการสำรวจมากมายในประชากรจำนวนมาก ชี้ว่า คนกว่า 18-38% เคยได้เห็นอนาคตของตัวเองในความฝัน และกว่า 70% เคยเจอกับประสบการณ์ เดจาวู (การเห็นภาพในปัจจุบันเหมือนฝัน) และคนที่เชื่อว่า ความฝันเป็นลางบอกเหตุนั้น มีมากตั้งแต่ 63-98% อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่ความเชื่อเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วความบังเอิญในการพบเจอเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในความฝัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ
14. หากคุณกรน คุณจะไม่สามารถฝันได้ จริงหรือ ?
เรื่องนี้เป็นที่แพร่หลายในอินเทอร์เน็ต แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มาสนับสนุนว่า หากคุณกรน คุณจะไม่สามารถฝันได้
15. คุณสามารถถึงจุดสุดยอดได้ในขณะที่ฝัน
คุณสามารถมีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์ได้ แม้ขณะที่กำลังฝัน รวมถึงการถึงจุดสุดยอดที่สะท้านเหมือนจริง คุณจะรู้สึกได้ถึงความเร้าใจ มีความสุขและตื่นเต้น ในขณะที่ฝันและได้เฉกเช่นกับที่คุณมีในโลกแห่งความเป็นจริง
ภาพจาก boredpanda.com