ไฮโซตั๋ม ลั่นเตรียมฟ้องกลับหมอแอร์ ระบุทำผิดควรเงียบ ไม่ใช้ออกมาฟ้องถูกหมิ่นประมาทในสิ่งที่ตัวเองทำจริง ชี้หากอยากให้เรื่องจบฝ่ายชายควรออกมาขอโทษพ่อแม่ตน
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2558 นางสาววิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม เปิดได้เผยว่า จากกรณีที่หมอแอร์ ได้มีการฟ้องหมิ่นประมาท เนื่องจากเคยโพสต์เฟสบุ๊กระบุว่าเป็นมือที่ 3 ทำให้ตนเองกับแฟนเลิกกันนั้น สำหรับเรื่องนี้ตนก็เตรียมที่จะดำเนินคดีกลับเช่นกัน นอกจากนี้ยังจะมีการลงชื่อร้องเรียนพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับตำรวจที่รณรงค์ป้องกันการข่มขืน แต่ตัวเองกลับแต่งตัวไม่เรียบร้อยซึ่งมีภาพปรากฏให้เห็นมากมายในโซเชียล
ทั้งนี้หากบอกว่าการกระทำของตนทำให้อีกฝ่ายเสียชื่อเสียง ตนเสียชื่อเสียงเช่นกัน คิดว่าเขาน่าจะสำคัญตัวผิดเนื่องจากเขาไม่ใช่ดาราดังอะไร ขนาดดาราดัง มีเพจออกมาต่อต้านและโพสต์ต่อว่ามากมายยังไม่เคยมีใครออกมาแจ้งความ
ส่วนกรณีที่บอกว่ามีหมายมาที่บ้านนั้น ตนยืนยันว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีหมายใด ๆ แจ้งมาทั้งสิ้น เพราะถ้ามีหมายมาตนเองพร้อมที่จะไปแน่นอน ซึ่งทุกวันนี้ศาลยังไม่ได้มีการรับฟ้องแต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่เคยคุกคามฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด แม้แต่บ้าน เบอร์โทร ก็ไม่เคยรู้จัก
นางสาววิชชุดา กล่าวอีกว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกว่า จริง ๆ แล้วการแย่งแฟนคนอื่น ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่ว่าตัวเองเป็นนางฟ้าห้ามไม่ให้ใครแย่งแฟน แต่การแย่งแฟนคนอื่นแล้วมาแจ้งความอีก คิดว่าไม่โอเค ตัวเองแย่งแฟนคนอื่นก็ควรที่จะเงียบไปไม่ใช่มาใช้การเป็นตำรวจแล้วไปแจ้งความ ซึ่งก่อนหน้านี้จากการพูดคุยกับคู่กรณีเก่า ๆ ของฝ่ายตรงข้ามก็โดนแจ้งความในลักษณะนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้หากอีกฝ่ายไม่ยอมจบ ตนก็ไม่จบเช่นกัน เพราะตนเองมองว่าการแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทในสิ่งที่ตัวเองทำจริงนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าขณะนั้นตนยังคบกับฝ่ายชายอยู่ หากเขาทำผิดแล้วเขาเงียบไปจะไม่มีเหตุการณ์อย่างวันนี้แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นจริง ๆ แล้วหากอยากให้เรื่องนี้จบ ฝ่ายชายควรมาขอโทษกับพ่อแม่ตนเสียแต่แรก เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีการมาสู่ขอพูดคุยเรื่องสินสอดแล้ว แต่กลับทำแบบนี้ แน่นอนว่าจากเรื่องที่เกิดขึ้นในมุมมองของพ่อแม่ของตนก็คงไม่สบายใจและสงสารลูก ที่ถูกผู้ชายหลอกว่าจะแต่งงานกันอยู่แล้วในเดือนพฤษภาคมนี้ แถมยังถูกผู้หญิงคนใหม่แจ้งความเอาผิดกับลูกสาวตนเอง
ทั้งนี้ อยากฝากถึงคู่กรณีว่า หากคิดว่าตัวเองไม่ผิด ควรเขามาอธิบายความจริงมากกว่าการเชิญสื่อไปศาล หรือไปที่คลีนิก มันไม่ได้ช่วยอะไร ทำไมไม่ใช้วิธีการเคลียร์ปัญหาให้จบ ส่วนฝ่ายชายหากคุณมีมารยาทพอก็ควรรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เป็นผู้ใหญ่แล้วควรจะมีความคิดว่าอะไรควรหรือไม่ควร การที่ออกมาแฉไม่ได้เป็นเพราะอยากสร้างกระแส ทุกอย่างที่ทำเพราะความสะใจล้วน ๆ เนื่องจากรู้สึกว่าอีกฝ่ายทำมากไป เนื่องจากแย้งแฟนคนอื่นไม่พอ ยังฟ้องว่าถูกหมิ่นประมาทในสิ่งที่ตัวเองทำจริง ๆ อีก
