แถลงรวบมือสังหาร พระหมอ เร่งล่าตัวดาบตำรวจคนชี้เป้า

          ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงรวบมือสังหาร พระหมอ เจ้าตัวเผยตอนรับงานไม่ทราบเป็นพระ แต่รับเงินมาแล้วก็ต้องทำ สั่งล่าตัว ด.ต. ชาญชัย คนชี้เป้า เพื่อขยายผลจับคนบงการต่อไป

          วันที่ 25 มีนาคม 2558 เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนสงครามยิง พระบัณฑิต สุปณฺฑิโต เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด มรณภาพริมถนนลูกรังริมสวนยางพารา (ห่างจากวัดตอสีเสียดประมาณ 2 กม.) ในพื้นที่หมู่ 15 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลา 07.20 น. 

          ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เร่งรัดสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายซึ่งมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม โดยการใช้อาวุธสงครามยิงพระสงฆ์มรณภาพ สร้างความรู้สึกสะเทือนใจให้แก่ประชาชนทั่วไป จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ. จักรทิพย์  ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. จัดทีมสืบสวนพิเศษจากหลายฝ่าย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มทบ.24 โดย พล.ต. ธนกร จงอุส่า ผบ.มทบ.24

          จากการสืบสวนทราบว่า มูลเหตุเกิดจากการเข้าใจผิดที่มีต่อพระหมอบัณฑิต จึงได้มีการจ้างวานมือปืนมาก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งคณะทำงานได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถระบุตัวและจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้คือ นายปัญจ๋า หรือ จ๋า หรือ โบ้ ชารีแสน อายุ 50 ปี เป็นมือปืน และมี ด.ต. ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่ (สส).สภ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้ร่วมกระทำความผิด โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” จากนั้นคณะทำงานได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี                      


          ด้านนายปัญจ๋า ผู้ต้องหาซึ่งเป็นมือสังหารพระหมอ รับสารภาพว่า ด.ต. ชาญชัย ซึ่งรู้จักกันมานานกว่า 10 ปี ได้มาหาที่บ้านพัก ที่ จ.กาฬสินธุ์ บอกว่าให้เตรียมอาวุธปืนจะพามายิงปลา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าจะมายิงคน จึงได้เตรียมอาวุธปืนลูกซองดัดแปลงไว้ใช้ยิงกับกระสุน เอ็ม 16 พร้อมด้วยกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 5 นัด โดยก่อนเกิดเหตุได้มานอนที่บ้านสวนของ ด.ต. ชาญชัย และ ด.ต. ชาญชัย ได้บอกว่า คนที่จะยิงครั้งนี้เป็นพระที่ทำธุรกิจมืดมีพฤติกรรมไม่ดี ตกลงค่าจ้าง  50,000 บาท ซึ่ง ด.ต. ชาญชัย จ่ายค่าจ้างล่วงหน้าจำนวน 30,000 บาท

          ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ ด.ต. ชาญชัย ได้ขับรถยนต์กระบะแค๊ปสีขาว ยี่ห้อมาสด้า มารับที่บ้านสวนเพื่อเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และได้ขับรถสวนทางกับพระผู้ตาย  ขณะกำลังเดินออกจากหมู่บ้านเพื่อกลับวัด โดยมีลูกศิษย์วัดเดินนำหน้า ด.ต. ชาญชัย จึงได้ชี้ให้ยิงพระบัณฑิต และกลับรถมาขับตามหลังผู้ตาย จากนั้นได้หยุดรถ ตนจึงได้หยิบเอาอาวุธปืนที่เตรียมไว้ แล้วเปิดประตูกระโดดไปขึ้นกระบะรถ วางอาวุธปืนพาดหลังคารถและได้ยิงใส่พระบัณฑิต จำนวน  1 นัด กระสุนเข้าทางด้านหลังพระบัณฑิตจนล้มลง จากนั้นได้คัดปลอกกระสุนออกและบรรจุใหม่แล้วยิงซ้ำไปที่ร่างพระบัณฑิตที่นอนล้มอยู่ อีก 1 นัด

          จากนั้นได้ลงจากกระบะหลังเข้ามานั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ ด.ต. ชาญชัย จึงได้ถอยกลับรถแล้วพากันหลบหนีมาที่บ้านสวนของ ด.ต. ชาญชัย และเดินทางกลับบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ด.ต. ชาญชัย บอกว่าจะนำไปทำลายทิ้ง และหลังเกิดเหตุประมาณ 2-3 วัน ด.ต. ชาญชัย ได้นัดหมายให้มารับเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ จำนวน 20,000 บาท ที่บริเวณสวนลิง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และได้บอกกับตนว่าให้ลบเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อกันทุกครั้งออกจากโทรศัพท์ให้หมด

          อย่างไรก็ตาม คณะทำงานสามารถสืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักในจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วน ด.ต. ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ นั้น คาดว่าขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งล่าตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมกับเร่งสืบหาพยานและหลักฐานเพื่อโยงไปถึงผู้จ้างวาน หรือไปถึงผู้เกี่ยวข้องรายอื่น ๆ ต่อไป