ศาลทหารปล่อยตัว พ่อน้องเฌอ หลังยื่นหลักทรัพย์ประกัน 7 หมื่นบาท เผยพร้อมต่อสู้คดีจนถึงที่สุด
วันที่ 26 มีนาคม 2558 พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสอบปากคำ นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 หรือ 1 ในแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม หลังถูกตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลจับกุมตัวตามหมายจับบริเวณลานจอดรถวัดระหาร ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ใกล้เคียงบ้านพักย่านบางบัวทอง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ท. ศรีวราห์ กล่าวว่า ในการจับกุมเป็นไปตามหมายจับของศาลทหารกรุงเทพในความผิดฐานปลุกระดมยั่วยุให้ผ่าผืนกฏหมาย ตามมาตรา 116 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 114 (3) และฝ่าฝืนประกาศของ คสช. ฉบับที่ 7 จากกรณีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ในการจัดกิจกรรมพลเมืองรุกเดิน จากซอยรางน้ำไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
นอกจากนี้ พล.ต.ท. ศรีวราห์ กล่าวว่า จะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปตรวจร่างกายก่อนเจ้าฝากขังเพื่อกันข้อครหาว่าถูกตำรวจซ้อมระหว่างควบคุมตัว และชี้แจงว่าไม่ได้เป็นการสกัดการดำเนินกิจกรรมที่กลุ่มดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่ทำตามหมายจับค้างเก่าตามขั้นตอน
ล่าสุด (26 มีนาคม 2558) ตำรวจได้จับกุมตัว นายพันธ์ศักดิ์ และนำตัวมาขออำนาจศาลเพื่อขอฝากขัง พร้อมตั้งข้อหาคือ
1. ฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 7
2. กระทำผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ม.14
3. กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ฐานกระทำการให้เกิดความปั่นป่วนหรือความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
จากนั้น ตำรวจจึงนำตัวนายพันธ์ศักดิ์ มาขออำนาจศาลกรุงเทพเพื่อฝากขังเป็นผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 15.03 น. ศาลทหารได้อนุมัติให้มีการปล่อยตัวพ่อน้องเฌอแล้ว โดยได้มีการวางหลักประกัน 7 หมื่นบาท พร้อมเงื่อนไขการประกันตัว
ภายหลังได้รับจากปล่อย นายพันธ์ศักดิ์ ได้เปิดใจว่า ก่อนเข้าไปก็รู้สึกวิตกกังวลอยู่บ้าง แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะเมื่อเข้าไปก็มีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin และอีกหลาย ๆ ท่านที่คอยให้กำลังใจ แต่สิ่งที่น่าตกใจ คือ ทุกคนทราบว่าผมเป็นใคร และถูกจับกุมเรื่องอะไร จากนั้นก็ได้มีการคุยกันในหลาย ๆ เรื่อง
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ทำให้ตนแปลกใจมากว่า การเดินของคนเพียงคนเดียวจะเป็นภัยต่อชาติได้อย่างไร แต่อย่างไรหลังจากนี้ตนก็จะขอเข้าไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม และในชั้นศาล โดยตนก็จะไม่ขอรับเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนจะมีการจัดกิจกรรมอีกหรือไม่นั้น คงต้องรอหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือก่อนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรดี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, สำนักข่าว INN