x close

ล้วงปมสังหาร พระหมอ กับบททดสอบสีกากียุค ใหญ่แค่ไหนก็จับ


ล้วงปมสังหาร

         นับเป็นเหตุสลดใจชาวพุทธครั้งใหญ่ของประเทศอีกครั้ง

         เมื่อพระอาจารย์บัณฑิต สุบัณฑิโต หรืออดีตนายแพทย์บัณฑิต สงวนแก้ว อายุ 48 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พระหมอ" เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด หมู่ 15 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระสายสายธรรมยุติผู้หนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องการปฏิบัติพระวินัยอย่างเคร่งครัด

          ถูกมือปืนดักยิงอย่างอุกอาจและโหดเหี้ยมขณะเดินกลับวัดจากบิณฑบาตผ่านป่ายางพารา มรณภาพคาผ้าเหลือง เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา

          จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นสาเหตุการลงมือสังหารไว้สองประเด็นคือความเข้าใจผิดในเรื่องชู้สาว เนื่องจากตัวพระเองมีญาติโยมเลื่อมใสศรัทธา เข้ามาปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ซึ่งบางส่วนอาจมีการเข้าใจผิด ส่วนอีกเรื่องคือปมการซื้อขายที่ดิน 10 ไร่ ที่อาจทำให้เกิดการขัดแย้งในการซื้อขาย

          ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี จึงได้ร่วมกันชุดสืบสวนภาค 4 เข้าสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ อย่างเร่งด่วน เพราะถือคดีดังกล่าวถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญในวงการพระสงฆ์ และวงการแพทย์ ประกอบกับพระหมอที่เสียชีวิตนั้น มีประชาชนให้ความศรัทธาเป็นจำนวนมาก จึงต่างคาดหวังให้ตำรวจเร่งหาคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว

          ยิ่งไปกว่านั้น หากนำข้อมูลผลการการชันสูตร ที่มีการพบเศษหัวกระสุนปืนไม่ทราบขนาดอยู่บริเวณต้นแขนซ้ายซึ่งเป็นกระสุนที่ถูกยิงจากหลังด้านขวา ส่วนรูกระสุนทางด้านหลังฝั่งซ้ายเข้าหัวใจทะลุหน้าอก ทำให้เชื่อได้ว่าการยิงดังกล่าวเป็นการยิงแบบหวังผลสังหารพระบัณฑิตอย่างแน่นอน

          จากนั้นทีมสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็เริ่มเดินเครื่องเร่งหาปมสังหาร

            โดยเริ่มจากการเข้าค้นกุฏิของพระบัณฑิต พร้อมทำเรื่องขอผ่าเอาหัวกระสุนมาพิสูจน์ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และจำลองเหตุการณ์ขณะคนร้ายลงมือ

             มุ่งตรวจสอบไปที่ประเด็นความเข้าใจผิดในเรื่องชู้สาว เนื่องจากตัวพระเองมีญาติโยมเลื่อมใสศรัทธา เข้ามาปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ซึ่งบางส่วนอาจมีการเข้าใจผิด ส่วนอีกเรื่องคือปมการซื้อขายที่ดิน 10 ไร่ พร้อมกับเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหารถที่ใช้ก่อเหตุของคนร้าย

           แต่ดูเหมือนว่าคดีดังกล่าวที่ตอนแรกคาดว่าน่าจะปิดแฟ้มได้อย่างไม่ยากเย็นนั้น กลับไม่หมูอย่างที่คิด เพราะผ่านไปหลายวันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ยังคงทำได้เพียงตั้งประเด็นกว้าง ๆ เรื่องความขัดแย้ง และเรื่องความเข้าใจผิดเพียงเท่านั้น ทำให้คดีดังกล่าวถูกพูดถึงมากขึ้น คู่กับข่าวลือที่หนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ว่า "ชาวบ้านแถวนั้นรู้หมดใครทำแต่ตำรวจพื้นที่กลับไม่รู้"

ล้วงปมสังหาร  

          กระทั่งวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา พล.ต.อ. สมยศ พุ่งพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ก็ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าคดีสังหารพระบัณฑิต ขณะนี้คืบหน้ามาก และมั่นใจจะสามารถได้ตัวคนบงการ และมือปืนรับจ้างในไม่ช้า โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานและหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อเชื่อมไปถึงผู้จ้างวานที่คาดว่าเป็นผู้มีบารมีแทรกซึมไปทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ในจังหวัดอุดรธานี แม้กระทั้งในวงการตำรวจก็ตาม

          ท่ามกลางการจับตามองของสังคมมากขึ้นทุกขณะ วันที่ 18 มีนาคม ผบ.ตร. ก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ให้ส่งทีมงานชุดสืบสวนพิเศษที่เคยคลี่คลายคดีสำคัญมาแล้วหลายคดี เข้าไปร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตรวจในท้องที่ เพื่อให้การคลี่คลายคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเรียก เสี่ยบั๊ก เจ้าของโรงพยาบาลเอกอุดร ถูกพาดพิง เข้ามาให้ปากคำพนักงานสอบสวน          

          และเมื่อคล้อยหลังเพียงไม่กี่วัน วันที่ 24 มีนาคม ผบ.ตร. ก็มีคำสั่งเด้งฟ้าฝ่า พล.ต.ต. ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และ พล.ต.ต. บุญลือ กอบางยาง ผบก.กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ไปช่วยราชการทันที และยังออกมาระบุอีกว่า หลังจากทีมสืบสวนชุดพิเศษได้ลงไปทำงานพบว่า มีตำรวจในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง กับการสังหารพระบัณฑิต เท่ากับว่าข้อสงสัยของประชาชนที่ผ่านมาเกี่ยวกับความล่าช้าในการสืบสวนคดีดังกล่าวถูกไขให้กระจ่างในทันที

ล้วงปมสังหาร

          และเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ตำรวจก็สามารถจับกุมนายปัญจ๋า หรือ จ๋า หรือ โบ้ ชารีแสน อายุ 50 ปี มือปืนผู้ลั่นไกสังหารพระปัญญาได้สำเร็จ โดยมี ด.ต. ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่ (สส) .สภ.เมืองอุดรธานี ที่กำลังหลบหนีอยู่ เป็นผู้ชี้เป้าและขับรถ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท โดยเจ้าตัวเปิดเผยกลางโต๊ะแถลงข่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าเป้าหมายเป็นพระ มาทราบอีกทีตอนที่ด.ต. ชาญชัย ชี้เป้าโดยบอก "ว่าคนนี้ ยิงได้เลย" ตนรับเงินมาแล้วจึงต้องลงมือ

          ล่าสุด เจ้าหน้าที่ไทยยังตามล็อกตั ด.ต.ชาญชัย ได้แล้วหลังจากหลบหนีไปกบดานอยู่ฝั่งลาว แต่ก็ไม่รอดไปได้ ทำให้การ "เชือด" ผู้บงการก้าวใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น

          อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันต่อว่า เรื่องราวการสังหารโหดพระอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวนรกในครั้งนี้ หลังจากได้ตัวมือปืนมาแล้ว จะสามารถรีดข้อมูลทั้งหมดจากคนร้าย เพื่อสาวถึงตัวการที่เป็นผู้จ้างวานได้หรือไม่ และจะสามารถสาวไปถึงผู้ให้การสนับสนุนคนร้ายหรือนายตำรวจรายอื่น ๆ ได้อีกหรือไม่ !






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ล้วงปมสังหาร พระหมอ กับบททดสอบสีกากียุค ใหญ่แค่ไหนก็จับ โพสต์เมื่อ 27 มีนาคม 2558 เวลา 13:18:03 16,076 อ่าน
TOP